ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.10-34.45 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 34.49 บาท/ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับในช่วง 3 วันทำการก่อนสงกรานต์ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 200 ล้านบาท ขณะที่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 3.7 พันล้านบาท
โดยเงินบาทเปิดสัปดาห์ซื้อขายที่ระดับแข็งค่าสุดในรอบ 21 เดือน สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่ยังคงสร้างความสับสนและกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง
"ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบทุกสกุลเงินสำคัญ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเกินไปและกลับมาสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่เงินเยนแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือน หลังสหรัฐโจมตีอัฟกานิสถานและสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดขึ้น" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ภาวะความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศกดดันบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตลาดหุ้น ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้น เนื่องจากเคยคาดการณ์ว่า สหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์จะมุ่งเน้นในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและปฏิรูปภายในประเทศเป็นสำคัญ ในระยะนี้เงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าที่สุดในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงของโลกที่เพิ่มขึ้น สำหรับทองคำและพันธบัตรได้รับความสนใจเป็นช่วงๆ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ประเมินว่า ความไม่แน่นอนในสถานการณ์โลกโดยเฉพาะความเสี่ยงด้านสงครามจะจำกัดกระแสเงินทุนที่จะไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ รวมทั้ง ไทย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มขยับตัวลงเล็กน้อยตามการปรับพอร์ตลงทุนของนักลงทุนในประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางตลาดโลก