บริษัท PwC ประเทศไทย เผยรายงาน Leveraging the upcoming disruptions from AI and IoT ซึ่งทำการศึกษาผลกระทบจากการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence: AI) และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (The Internet of Things: IoT) ต่อตลาดแรงงานทั่วโลก
เนื้อหาจากรายงานที่น่าสนใจ ได้แก่ เทคโนโลยีเอไอจะเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการข้อมูลของไอโอทีทั้งการจัดเก็บ รวบรวม ประมวลผลเชิงลึก ผ่านการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine learning) โดยรายงานพบว่า ด้วยความสามารถในการทำงานแบบเรียลไทม์ผ่านการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องจักรอัจฉริยะจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจอย่างมหาศาล และส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนในเอไอทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยในระยะข้างหน้า
วิวัฒนาการของเอไอที่กำลังเข้ามาปฏิวัติการทำงานในโลกอุตสาหกรรมจะส่งผลให้ตลาดแรงงานได้รับผลกระทบ ขณะที่องค์กรต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การจ้างงานและเสริมสร้างทักษะของพนักงานที่มีอยู่เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงขึ้น และลดสัดส่วนจำนวนพนักงาน (Headcount) ขององค์กรลง
รายงานระบุว่า อาชีพที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเข้ามาของเอไอมากที่สุด ได้แก่ ผู้ช่วยส่วนตัว คนขับรถแท็กซี่ พนักงานเก็บเงิน พนักงานรับโทรศัพท์ พนักงานต้อนรับ และพนักงานธนาคาร นอกจากนี้ PwC ยังคาดการณ์ว่า จะมีอาชีพอื่นๆ ด้วยที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่เอไอกำลังถูกนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ
การขยายตัวของสินค้าและบริการอัจฉริยะต่างๆ ที่เป็นผลพวงจากความก้าวหน้าของเอไอจะยิ่งผลักดันให้ผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยเอไอจะทำให้เกิดผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ในตลาด รวมทั้งการล้มหายไปของคู่แข่งที่ปรับตัวไม่ได้
การนำเอไอมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 5 ประการ ได้แก่ เพิ่มรายได้ให้กับบริษัท ลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยในชีวิต ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน