พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการแก้ไขและฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจว่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาทำงาน ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมาได้พยายามแก้ปัญหามาโดยตลอด และยอมรับว่าเป็นปัญหาหนัก เพราะมีหนี้เยอะ เนื่องจากมีทั้งรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน รายได้น้อยไม่เพียงพอ
สำหรับการประชุม ครม.วันนี้ได้มีข้อเสนอเรื่องขออนุมัติปรับโครงสร้างทางการเงินของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) แต่ตนเองได้ขอให้ไปหามาตรการที่เหมาะสมก่อน โดยทุกเรื่องต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายทั้งหมด เช่น ปล่อยกู้เงินผิดประเภทที่ทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มีมาตรการที่เหมาะสม 2 แนวทางคือ ปล่อยให้ล้มไปโดยรัฐบาลต้องรับผิดชอบ แต่หากล้มไปผู้ที่ทำความผิดก็ต้องถูกลงโทษ และจะดำเนินคดีฟ้องร้อง แต่ถึงอย่างไรรัฐบาลก็ต้องจ่ายเงิน ส่วนอีกทางหนึ่งคือช่วยให้อยู่ต่อได้ ซึ่งต้องใช้เงินเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะแก้ทางไหนก็ต้องสูญเสียเงินอยู่ดี
"เป็นเรื่องที่อยากจะเรียนว่า ธนาคารนี้ก็ถือเป็นสัญลักษณ์เหมือนกัน แล้วถ้าจะให้เฉพาะชาวมุสลิมอย่างเดียวก็จะไม่พอเพียงต่อการบริหาร เราจึงต้องไปหามาตรการที่รัดกุมว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ใครจะกู้ได้บ้าง และกู้ได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาไม่มีระบบอะไรเลย พยายามแก้มา 3 ปีแล้ว แต่ยังมีปัญหาเพราะว่าหนี้มันเยอะ ซึ่งคนรับผิดชอบก็คือรัฐบาล แต่เราต้องหาคนมารับผิดชอบในเชิงกฎหมายมาด้วย คดีความต่างๆ ต้องตามให้หมดว่าปล่อยกู้อย่างไร ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว