นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) วันที่ 18 เม.ย. 2560 มีมติมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานและพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ชี้แจงทำความเข้าใจกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการกระจายเสียงตาม พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 เกี่ยวกับกรอบแนวทางปฏิบัติ กรอบระยะเวลาสำหรับการดำเนินการ และแนวการกำกับดูแลของ กสทช. ดังนี้
1.ระยะเวลาในการใช้งานหรือถือครองคลื่นความถี่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ให้นับต่อไปอีก 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2560 โดยสิ้นสุดลงวันที่ 3 เม.ย. 2565 ตามคำสั่ง คสช.ที่ 76/2559
2.กรอบแนวทางปฏิบัติที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐจะต้องถือปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ตามมาตรา 83 แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 โดยให้ทำความเข้าใจ ดังนี้
2.1 เห็นควรเน้นย้ำกรณีประสงค์จะทำสัญญาให้บุคคลอื่นเข้าร่วมดำเนินการ ต้องปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดำเนินการ พ.ศ.2556
2.2 การจัดทำผังรายการจะต้องเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2556
2.3 เนื้อหารายที่ออกอากาศต้องไม่ขัดหรือแย้งกับหลักเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนดไว้ เนื้อหาต้องไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 หรือกำหนดให้มีรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ผู้พิการ และคนด้อยโอกาส
นอกจากนี้ที่ประชุม กสท. ได้เห็นชอบอัตราการลดหย่อนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด และบริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด รวมทั้งได้เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของกองทัพบก บมจ.อสมท (MCOT) และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ที่ได้มีการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณโทรทัศน์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนครัวเรือนทั่วประเทศ