นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า สิ่งที่รัฐบาลอยากให้ สศช.ทำ คือ ต้องมีหน้าที่คิดมองไปข้างหน้าว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไรในอีก 20-25 ปีข้างหน้า เพราะ สศช.ถือเป็นคลังสมองของประเทศ และต้องมีการทบทวนว่า มีเรื่องอะไรบ้างที่ สศช.จะไม่ทำอีกต่อไป
ส่วนการจัดทำงบลงทุนรัฐวิสาหกิจที่เป็นงานระยะสั้นและระดับปฏิบัติการ เช่น การรวบรวมและเร่งรัดการใช้จ่ายลงทุน ควรโอนภารกิจให้สำนักคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งกำกับนโยบายและงบดำเนินการของรัฐวิสาหกิจอยู่แล้ว เพื่อให้ สศช.ให้ความสำคัญกับการวางแผนและวิเคราะห์โครงการลงทุนขนาดใหญ่ได้
หลังจากนี้ไป สศช.จะต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงทั้งภาพรวม และโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถเข้ามาช่วยงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ สำหรับบทบาทที่อยากเห็นในอนาคต คือ การปรับโครงสร้างสำนักงาน เช่น การเพิ่มสำนักยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ, เพิ่มสำนักเพื่อดูแลภารกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักภาคและเมือง สำนักความมั่นคง, ยกระดับกลุ่มงานเป็นสำนัก เช่น กลุ่มงานด้านยุทธศาสตร์ต่างประเทศ เป็นสำนักยุทธศาสตร์ต่างประเทศ เป็นต้น เพื่อเป็นการรองรับการปรับโครงสร้างสำนักงานให้สอดคล่องกับร่าง พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ และร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ
ในส่วนของการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายสมคิด กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จและนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ภายใน 2 สัปดาห์