นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 50 เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ในปีนี้ยังได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระลง ซึ่งนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 19 โดยมีนายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการเลขาธิการ พร้อมทั้งคณะกรรมการชุดใหม่รวม 67 คน ซึ่งกรรมการชุดใหม่นี้จะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (คนใหม่) กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนสมาชิกในเครือข่ายของสภาหอการค้าฯ ทั้งหมดมีประมาณ 100,000 ราย ดังนั้นการทำงานต่อจากนี้ จะมุ่งทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและสมาชิก ทั้งนี้ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ คือ เป็นสถาบันหลักทางการค้าและบริการของประเทศ ที่ใช้ข้อมูล ความรู้ เครือข่าย และความร่วมมือที่เข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนประเทศไทย ให้เติบโตได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน และได้กำหนดพันธกิจไว้ 5 ประการ สำหรับขับเคลื่อนองค์กร เพื่อให้บรรลุผลตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ประกอบด้วย
1.เสริมความสามารถในการแข่งขันและโอกาสทางการค้าและบริการให้กับผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน ด้วยข้อมูล นวัตกรรม และมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ
2.สร้างความเชื่อมโยงและร่วมมือ ให้เกิดความเข้มแข็งของเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก
3.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมตามแนวทางประชารัฐ และธรรมาภิบาลการดำเนินธุรกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
4.ต่อยอดความรู้และประสบการณ์ สร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ
5.พัฒนาการบริหารจัดการองค์กรทั้งเครือข่าย ให้มีประสิทธิภาพและมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม
นายกลินท์ กล่าวว่า แนวนโยบายของคณะกรรมการชุดใหม่นี้ จะยังคงสานต่องานเดิมของคณะกรรมการชุดที่แล้ว เพื่อการดำเนินงานที่มีพลังต่อเนื่อง และจะมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0 ตามแนวคิด Trade & Services 4.0 ด้วยการใช้นวัตกรรม (Innovation) และความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นจริง (Execution) ด้วยการพัฒนาและยกระดับความสามารถทางการแข่งขันให้แก่สมาชิก โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มการค้าและการลงทุน 2.กลุ่มเกษตรและอาหาร และ 3.กลุ่มท่องเที่ยวและบริการ
"จุดแข็งที่สำคัญขององค์กร คือ การเป็นองค์กรที่มีเครือข่ายรอบด้าน ทั้งหอการค้าจังหวัด สมาคมการค้า และหอการค้าต่างประเทศ รวมทั้งสถาบันการศึกษา และสถาบันทางด้านธุรกิจต่างๆ ดังนั้น คณะกรรมการชุดนี้จะเน้นการเชื่อมโยงเครือข่ายเหล่านี้เข้าด้วยกัน ซึ่งจะสามารถหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทางด้านเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการเติบโตของประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต"นายกลินท์ กล่าว