สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยเศรษฐกิจไทยในเดือน มี.ค.60 และไตรมาส 1/60 ส่งสัญญาณขยายตัวในเกณฑ์ดี สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกและการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดี ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมารการจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวได้ในระดับสูงจากปริมาณผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/60 ส่งออกขยายตัว 4.9% และนำเข้าขยายตัว 14.8% ดุลการค้าเกินดุลในระดับ 4.1 พันล้านดอลล์
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สศค.ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า ในเดือนมี.ค. มูลค่าการส่งออกสินค้ากลับมาขยายตัวเป็นบวก โดยขยายตัวที่ 9.2% ต่อปี โดยหมวดสินค้าสำคัญที่สนับสนุนการส่งออก ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรกรรม ผลิตภัณฑ์ยางพารา และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นหลัก โดยตลาดที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ จีน CLMV ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัว 4.9% ต่อปี
สำหรับมูลค่าการนำเข้า ในเดือนมี.ค. 60 ขยายตัวสูงที่ 19.3% ต่อปี จากหมวดสินค้าสำคัญ เช่น สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สินค้าเชื้อเพลิง สินค้าทุนหักรายการพิเศษ (เครื่องบิน เรือ รถไฟ) เป็นสำคัญ เป็นผลทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 มูลค่าการนำเข้าขยายตัว 14.8% ต่อปี
ทั้งนี้ การส่งออกที่สูงกว่าการนำเข้าส่งผลให้ดุลการค้า ในเดือนมีนาคม 2560 เกินดุลที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ดุลการค้าเกินดุลที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง เดือนมี.ค.60 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ 40.4% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัว 38.5% ต่อปี สอดคล้องกับปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ในเดือนมี.ค.60 ขยายตัว 3.0% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 3.2% ต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคมและไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวที่ 28.7% และ 18.4% ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนมีนาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 65.1 ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 15 เดือน ส่วนหนึ่งจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยในหลายจังหวัดเริ่มขยายตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในเดือนมี.ค. และไตรมาสที่ 1 ปี 2560 มีสัญญาณฟื้นตัว สะท้อนจากการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรที่สะท้อนจาก ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยในเดือนมี.ค.60 ขยายตัว 5.0% ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัว 5.3% ต่อปี นอกจากนี้ ปริมาณนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนมี.ค.60 ขยายตัว 9.7% ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนขยายตัว 1.2% ต่อปี สำหรับการลงทุนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ในเดือนมี.ค.60 ขยายตัวอยู่ที่ 1.6% ต่อปี จากการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคา ในหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กปรับตัวสูงขึ้น 9.7% ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวที่ 2.0% ต่อปี
ด้านการผลิต โดยภาคการเกษตรสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ที่ขยายตัว 20.1% ต่อปี โดยเป็นการขยายตัว ในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะหมวดพืชผลสำคัญที่ขยายตัว 28.2% ตามการขยายตัวของผลผลิตข้าวเปลือก ข้าวโพด และไม้ผล เป็นหลัก ส่งผลทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัว 7.1% ต่อปี นอกจากนี้ ดัชนีราคาสินค้าเกษตร ในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวต่อเนื่องที่ 8.1% และ 12.1% ต่อปี ตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้น ในหมวดพืชผลสำคัญจากราคายางพารา และราคาปาล์มน้ำมัน ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เป็นสำคัญ
สำหรับภาคบริการ สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทย ในเดือนมี.ค.560 กลับมาขยายตัว 2.0% ต่อปี โดยเป็นนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีจากรัสเซีย กลุ่ม CLMV เกาหลี อินเดีย และญี่ปุ่น เป็นหลัก ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวน 9.2 ล้านคน ขยายตัว 1.7% ต่อปี นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 87.5 โดยเป็นผลจากการเร่งผลิตสินค้าเพื่อรองรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กอปรกับราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นในหลายสินค้าช่วยส่งผลดีต่อบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย
ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ในเดือนมี.ค.60 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน อยู่ที่ 0.8% และ 0.6% ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 1.3% และ 0.7% ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ โดยในเดือนมี.ค.และไตรมาสที่ 1 ปี 2560 อยู่ที่ 1.3% และ 1.2% ของแรงงานรวม ตามลำดับ
สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ณ สิ้นเดือนก.พ. 60 อยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่ 42.0% ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกิน 60% สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมี.ค.และสิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2560 อยู่ที่ระดับ 180.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 3.3 เท่าเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศระยะสั้น