นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงก่อนสงกรานต์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี:Stronger Together โดยในงานได้มีการหารือข้อราชการระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการคลังของเมียนมา ในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านศุลกากรระหว่างกัน ความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดน เช่นที่ด่านแม่แจ๊ะ รัฐคะยา ตรงกันข้ามกับด่านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน ความร่วมมือด้าน การท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-เมียนมา ด้านเมียวดีกับแม่สอด จ.ตาก ท่าขี้เหล็กกับแม่สาย จ.เชียงราย เกาะสองกับ จ.ระนอง การพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ภายใต้โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program:YEN-D) การดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (Single Stop Inspection:SSI) โดยจะดำเนินการเมื่อสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 แล้วเสร็จ รวมทั้งได้ผลักดันการใช้เงินบาท-เงินจ๊าด ในการแลกเปลี่ยนค้าขายอย่างเป็นทางการเพื่อสนับสนุนการขยายตัวด้านการค้าและลดต้นทุนในการทำธุรกิจ
ด้านการประชุมภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและเมียนมาซึ่งมีอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศของทั้งไทยและเมียนมาเป็นหัวหน้าคณะหารือเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกทางการค้า การสนับสนุนการจัดตั้ง Single Stop Inspection การให้ความรู้เกี่ยวกับการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อขอใช้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีศุลกากร (Form D) ให้กับผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวแม่สอด-เมียวดี ความร่วมมือด้านอัญมณีระหว่างภาคเอกชนไทย-เมียนมา การจัดมหกรรมการค้าชายแดน มีสินค้าของทั้งผู้ประกอบการไทยและเมียนมามาจำหน่าย ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าอัญมณี สินค้าที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์มูลค่าการซื้อขายภายในงาน (รวม 5 วัน) ประมาณ 30 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจบริการขณะนี้มีนักลงทุนไทยได้ลงทุนในกิจการโรงพยาบาล เพื่อให้บริการด้านสาธารณสุขให้แก่ทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาเป็นโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลนครแม่สอดอินเตอร์เนชั่นแนล เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา และมีโครงการสร้างอาคารใหม่ 5 ชั้น บนพื้นที่กว่า 25 ไร่ จะสร้างเสร็จในปี 2561 นี้ ซึ่งเมื่อเปิดดำเนินการครบถ้วนแล้วจะเป็นโรงพยาบาลที่พร้อมให้บริการทางการแพทย์เฉพาะระบบอย่างเต็มรูปแบบในพื้นที่ชายแดน ซึ่งทั้งไทยและเมียนมาเห็นพ้องกันว่าธุรกิจบริการเป็นสาขา ที่ยังมีโอกาสขยายความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก
“การค้าชายแดนไทย-เมียนมา ทางด่านแม่สอด จังหวัดตากมีมูลค่าปีละกว่า 80,000 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 43 ของมูลค่าชายแดนรวมระหว่างไทย-เมียนมา นับเป็นด่านที่มีความสำคัญอันดับหนึ่งของทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังตั้งอยู่บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมตะวันตกสู่ตะวันออก (East-West Economic Corridor : EWEC) เชื่อมเมียนมาผ่านไทยที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พิษณุโลก มุกดาหาร ไปสู่ สปป.ลาว ที่สะหวันนะเขตเข้าสู่เว้ ดานังประเทศเวียดนาม ออกสู่ทะเลไปยังตลาดโลกได้อีกทางหนึ่ง" นางอภิรดี กล่าว