นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวในโอกาสจัดงานวันคล้ายวันสถาปนา 48 ปี กฟผ.ว่า ปัจจุบัน กฟผ.มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 16,385 เมกะวัตต์ คิดเป็น 39.43% ของระบบผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศที่ 41,556.25 เมกะวัตต์
สำหรับก้าวต่อไป กฟผ.มุ่งสู่ Energy 4.0 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาระบบไฟฟ้า ได้แก่ การพัฒนาเครือข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) นำร่องที่ จ.แม่ฮ่องสอน ที่ผู้ผลิตและผู้ใช้พลังงานสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันผ่านระบบสารสนเทศ การพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (Energy Storage) เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มีเสถียรภาพ และการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตไฟฟ้าได้บางช่วงเวลาให้พึ่งพาได้ตลอดเวลา โดยจับคู่แหล่งผลิตตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปในรูปแบบที่เรียกว่า Hybrid เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับและกังหันลมผลิตไฟฟ้าที่ลำตะคอง จ.นครราชสีมา รวมถึงมีการเตรียมรองรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยพัฒนารถต้นแบบและสถานีชาร์จไฟฟ้า ตลอดจนเตรียมพัฒนาพื้นที่สำนักงานใหญ่ กฟผ. นนทบุรี ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) บนพื้นที่ 300 ไร่ เพื่อเป็นต้นแบบการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ กฟผ.มีเป้าหมายชัดเจนที่จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนธิสัญญา COP 21 ที่ กฟผ.ร่วมรับผิดชอบเป้าหมายของประเทศให้ได้ 4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2563 และ 8 ล้านตันฯ ในปี 2568 และ 12 ล้านตันฯ ในปี 2573