นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจไทย ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนให้เป็นรากฐานสำคัญของการสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง นำไปสู่การพัฒนาความสามารถในการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึงได้บูรณาการร่วมกันภายในกระทรวง จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการเพื่อการค้าระหว่างประเทศอย่างครบวงจร หรือ Startup Complex โดยร่วมมือกันระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าภายใน และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
"กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการนี้ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน Startup กลุ่มผลิตภัณฑ์/ธุรกิจบริการ และแฟรนไชส์ที่มีศักยภาพในตลาดระดับประเทศและระดับสากล โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีหน้าที่ในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ กรมการค้าภายในจะพัฒนาตลาดภายในประเทศ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อให้สามารถสร้างผู้ประกอบการและธุรกิจไทยให้มีความเข้มแข็งได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสามารถพัฒนากระบวนการดำเนินงานของภาครัฐให้เกิดการบูรณาการทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถปรับตัวพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสถานการณ์การค้าโลกและเทคโนโลยี" รมว.พาณิชย์กล่าว
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการ แบ่งได้เป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง การจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการเพื่อการค้าระหว่างประเทศอย่างครบวงจร หรือ Startup Complex ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเป็นสถานที่และศูนย์กลางสำหรับพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน และกลุ่ม Startup
ส่วนที่สอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างโอกาสในการขยายตลาด โดยคัดเลือกผู้ประกอบการ วิเคราะห์ศักยภาพ/สถานการณ์ตลาด บ่มเพาะเชิงปฏิบัติการให้สามารถพัฒนารูปแบบธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่ม เข้าสู่ตลาดและแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังมีการสร้างเครือข่าย ประสานเชื่อมโยง บูรณาการความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนให้เกิดการพัฒนาอย่างครบวงจร เช่น การสร้างนวัตกรรม การหาแหล่งเงินทุน และการเสนอแนะแก้ไขปัญหาอุปสรรคเชิงนโยบาย
ส่วนที่สาม การส่งเสริมพัฒนากลยุทธ์การตลาดและการสร้างช่องทางการตลาดในประเทศ โดยกรมการค้าภายในจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและจำหน่ายสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน และ Startup เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นความต้องการของตลาดใน 6 พื้นที่ส่วนภูมิภาค อีกทั้งจะเชิญผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้นำเข้า-ส่งออกเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้า จับคู่ธุรกิจและสร้างเครือข่ายการตลาด (Business Matching และ Networking) นับเป็นการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน SMEs และ Startup ที่มีศักยภาพของแต่ละภูมิภาค
ส่วนที่สี่ การส่งเสริมพัฒนากลยุทธ์การตลาดและการสร้างช่องทางการตลาดต่างประเทศ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาดต่างประเทศ อาทิ การเชิญนักธุรกิจ/ผู้นำเข้าจากต่างประเทศมาเจรจาการค้าในประเทศไทย (Sourcing Forum) การส่งเสริมธุรกิจบริการสร้างสรรค์สู่สากล และการผลักดันสินค้าไทยสู่สากล
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า นอกจากสี่ส่วนหลักข้างต้นแล้ว Startup Complex ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก ยังเป็นที่ตั้งของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ New Economy Academy หรือ NEA ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ บริหารจัดการองค์ความรู้จากทุกหน่วยงาน พัฒนาหลักสูตรการค้ายุคใหม่ อาทิ New Economy Foundation/ New Economy Driver /New Economy Connector และ New Economy Amplifier พร้อมทั้งจัดสรรอุปกรณ์ เครื่องมือ เทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ตลอดจนให้บริการคำปรึกษาแก่ประชาชนและผู้ประกอบการไทยทุกระดับที่ต้องการพัฒนาศักยภาพอย่างเร่งด่วนภายใต้การเปลี่ยนแปลงในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่นี้ เพื่อให้การบรูณาการการทำงานทั้งกระทรวงพาณิชย์และเครือข่ายทุกภาคส่วนเป็นไปอย่างสัมฤทธิ์ผล และสามารถสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างครบวงจรให้แก่นักธุรกิจทุกระดับอย่างยั่งยืนต่อไป
รมว.พาณิชย์ ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์มุ่งหวังให้โครงการ Startup Complex เป็นศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอย่างครบวงจร เป็นกลไกในการพัฒนาผู้ประกอบการและธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน มุ่งเน้นการเชื่อมโยงทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างเป็นระบบ ตลอดจนสร้างความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการและธุรกิจไทยจะได้รับการพัฒนาสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายของรัฐบาล โดยผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน จะได้รับการพัฒนาศักยภาพให้สามารถแข่งขันและขยายตลาดได้ในประเทศและต่างประเทศ