นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีมีข่าวองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) เตรียมขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) บมจ. อิตาเลียนไทย (ITD) หลังเกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้างรถไฟสายสีแดงทำให้มีคนงานก่อสร้างเสียชีวิต 3 ราย ว่า ยังไม่ได้รับการแจ้งเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในการก่อสร้างโครงการต่างๆ นั้นจะมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากลที่ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว ซึ่งกรณีที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง ในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้กำชับเรื่องความปลอดภัยในการก่อสร้างทุกๆ โครงการ ไม่เฉพาะรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้างของสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
โดยปกติเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย นอกจากนี้ผู้รับเหมาต้องมีประกันภัย ประกันชีวิตเพื่อดูแลกรณีเกิดเหตุขึ้น แล้วส่วนการก่อสร้างจะต้องมีวิศวกรของผู้รับจ้างเอง และมีที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง รวมถึงหน่วยงานเจ้าของโครงการจะต้องมีการควบคุมอีกชั้นหนึ่งเป็น Safety Audit Plan โดยจะต้องมีคนของหน่วยงานเข้าไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า มาตรการด้านความปลอดภัย เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นจะต้องสั่งหยุดการทำงานในจุดดังกล่าวทันที พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงสาเหตุของการเกิดและดูขั้นตอนการทำงานว่าได้มีการปฏิบัติตามขั้นตอนการก่อสร้างและปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งกรณีสายสีแดง เมื่อเกิดการติดขัดแล้ว หลักการทำงานคือต้องหยุดก่อนและย้ายคนออกจากพื้นที่ก่อนจึงจะแก้ไข ตรงนี้ วิศวกรรมสถานฯ ซึ่งเป็นคนกลาง อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุว่า เกิดจากความประมาท หรือสุดวิสัย
โดยกระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือเวียนถึงทุกหน่วยงาน ในการกำชับเรื่องการปฏิบัติตามขั้นตอนการก่อสร้างและปฏิบัติตามขั้นตอนด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด โดยทุกหน่วยงานจะต้องเรียกผู้ควบคุมงานก่อสร้างและผู้รับจ้างในทุกโครงการ มากำชับแนวทางการทำงาน อย่างไรก็ตาม กรณีที่ผู้รับจ้างรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย หน่วยงานคู่สัญญาจะต้องพิจารณาว่า จะมีการเพิ่มเติมในรายละเอียดสัญญากับผู้รับจ้าง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำอีกอย่างไร