พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่ยังมีสถานการณ์อ่อนไหวจากสถานการณ์ภายนอกประเทศในเรื่องความขัดแย้งในกรณีต่างๆ ขณะที่เศรษฐกิจฐานรากยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจไม่มากนัก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานรากเป็นหลัก และรับทราบดีว่าประชาชนบางส่วนยังมีรายได้ไม่เพียงพอ จึงได้สั่งการให้ดูแลประชาชนในระดับฐานรากและทำให้ประชาชนมีรายได้ที่มากขึ้น โดยเฉพาะภาคเกษตร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้ที่มีรายได้น้อย
ที่ผ่านมารัฐบาลให้เร่งการบริหารจัดการน้ำและที่ดินให้รวดเร็วขึ้น และมีมาตรการดูแลผู้ที่มีรายได้น้อยออกมาแล้ว รวมทั้งการจัดทำโครงสร้างสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ตลาดประชารัฐ ใช้งบประมาณไปหลายแสนล้านบาท และจำเป็นต้องทำควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจขนาดใหญ่
"วันนี้ดีขึ้นมามาก แต่ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดกับประชาชนยังได้น้อยอยู่ เพราะเป็นระยะที่พื้นฟู ต้องแก้ไข กราบเรียนว่าไม่เคยลืมเรื่องเหล่านี้เลย อย่ามาคิดมาเรามองแต่เรื่องใหญ่ เช่น อีอีซี มันต้องทำไปพร้อมๆกัน"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในช่วงระยะ 2 ปีที่ผ่านมาได้มีมาตรการต่างๆ ออกมามากมาย และหลังจากนี้จะมีการสานต่อให้เกิดกับประชาชนให้มากที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนต้องมีการพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ไปสู่ยุค 4.0 ด้วยการใช้เทคโนโลยีและดิจิตอลมาช่วยพัฒนาด้านการค้า จึงขอให้ทุกคนอดทนและอย่ามองว่ารัฐบาลไม่ให้ความช่วยเหลือ โดยสิ่งสำคัญต้องมีความเข้าใจและอย่าหลงเชื่อข่าวบิดเบือนต่างๆ
"ทั้งหมดเราทำเยอะจริงๆ จัดระเบียบใหม่แต่ต้องใช้เวลา ก็ขอให้พี่น้องอดทนไปกับเราอีกสักนิด อย่ามองว่ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาให้เลย ผมก็อยากให้เงิน ให้แรงงานมีรายได้สูงขึ้นแต่รายรับเรายังไม่ได้ การลงทุนยังมีปัญหายังแข่งขันกันมาก ซึ่งกระทบทั้งสิ้น ถ้าเราสร้างได้ทุกอย่างกระจายมาข้างล่างได้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว