นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.63 บาท/ดอลลาร์ จาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.65 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทอาจจะทรงตัวอยู่ในกรอบเดิมๆ เพราะยังขาดปัจจัยใหม่มาผลักดัน แต่บาทมีโอกาสจะอ่อนค่าขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์และสาขาคลีฟแลนด์ ออกมาให้ความเห็นเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย นโยบายในการประชุมเฟดเดือนมิ.ย.
"บาทมีโอกาสจะปรับสูงขึ้นนิดหน่อย เพราะจากที่ประธานเฟด 2 คนออกมาให้ความเห็นเรื่องดอกเบี้ยในการประชุม เดือนมิ.ย. ก็น่าจะมีส่วนผลักดันตลาดได้บ้าง" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.60-34.75 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.6800 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (8 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.38486% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (8 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.54241%
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.19 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 112.49 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0928 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.0944 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.6430 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมหารือกับกระทรวงการคลังในการออกแนวปฏิบัติรวมถึงคุณสมบัติของผู้เข้า
ร่วมทดลองเทคโนโลยีปล่อยกู้ระหว่างระหว่างบุคคล (พีทูพี เลนดิ้ง) ในเร็วๆ นี้
- ทีมวิจัยและประเมินการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) ธนาคารโลก เดินทาง
มาไทยเพื่อเก็บข้อมูลใช้ในการจัดอันดับ Ease of doing business 2018 โดยมีกำหนดเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี วันที่ 15 พ.ค.นี้
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในรายงาน "Regional Economic Outlook for Asia
and the Pacific" ฉบับล่าสุด โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 5.5% ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.2% จากปีที่แล้ว โดยระบุ
ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจ
อินโดนีเซียจะอยู่ที่ 5.1% ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.1% จากปีที่แล้ว ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยจะลดลง 0.2% สู่ระดับ
3.0% ในปีนี้
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ขาน
รับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์และคลีฟแลนด์ ที่สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ซึ่งกระตุ้นกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
สหรัฐ ที่ระดับ 1.0931 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0988 ดอลลาร์ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.03 เยน
จากระดับ 112.64 เยน
- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรจะเดินหน้าปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดได้บรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวใกล้เป้าหมาย 2% ของ
เฟด ถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐยังมีความอ่อนแอ
- นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวอย่าง
อ่อนแอในช่วงต้นปี มีแนวโน้มที่จะชะลอแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ และนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธาน
เฟด สาขาเซนต์หลุยส์ เห็นพ้องกันว่า ชัยชนะของนายเอมมานูเอล มาครอง ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ช่วยคลายความ
วิตกเกี่ยวกับภาวะปั่นป่วนของตลาดและเศรษฐกิจจากยุโรปที่จะลุกลามเข้ามาในสหรัฐ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) จากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญา
ทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนลดแรงซื้อ
สินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากนายเอมมานูเอล มาครอง คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส
- แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ประกาศปรับเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสมีแนว
โน้มขยายตัว 1.3% ในปีนี้ และ 1.4% ในปีหน้า หลังจากที่นายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ชนะการ
เลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส
- ประชาชนเกาหลีใต้เริ่มทยอยเข้าคูหาเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ในเช้าวันนี้ โดยเกาหลีใต้
เปิดคูหาตั้งแต่เวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (04.00 น.ตามเวลาไทย) และจะปิดคูหาในเวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
(18.00 น.ตามเวลาไทย)
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., จำนวน
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาค
ธุรกิจเดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนพ.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน