ครม.เห็นชอบแนวทางส่งเสริมการวิจัย-พัฒนา 5 อุตสาหกรรมหลัก พร้อมให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 9, 2017 15:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของกรอบแนวทางการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สำหรับ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามกรอบแนวทางดังกล่าว รวมทั้งอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เกี่ยวข้องตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

โดย ครม.เห็นชอบการกำหนดวัตถุประสงค์หลักของการทำงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) โดยมุ่งเน้นการพัฒนา 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศให้เป็นไปตามความต้องการของภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นการพัฒนางานวิจัยที่ตรงตามความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรม (Demand-driven Research) เป็นการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของกลุ่มอุตสาหกรรม และเพื่อเร่งสร้างขีดความสามารถและคุณภาพงานวิจัยของประเทศอย่างเร่งด่วน

สำหรับ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ 1 : กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ คลัสเตอร์ 2 : กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ คลัสเตอร์ 3 : กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม คลัสเตอร์ 4 : กลุ่มดิจิตอล เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว และคลัสเตอร์ 5 : กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ครม.ได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามกรอบแนวทางฯ ดังนี้

1.ให้ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านของ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักในหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน กลุ่มบริษัทเอกชน หรือนิติบุคคล เป็นผู้กำหนดหัวข้อการวิจัยและพัฒนา เพื่อว่าจ้างมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานภาครัฐในการทำวิจัยและพัฒนา

2.ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับมหาวิทยาลัยดำเนินการคัดเลือกและจัดสรรนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยของภาครัฐ เข้าไปร่วมดำเนินการวิจัยและพัฒนาในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ทั้งนี้ อนุโลมให้ว่าจ้างนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยนอกเหนือจากภาครัฐทั้งไทยและต่างชาติได้ สำหรับรูปแบบการทำวิจัยและพัฒนาอาจดำเนินการในลักษณะชุดโครงการ (Program-based Research) ซึ่งให้มหาวิทยาลัยของรัฐหรือหน่วยงานภาครัฐประมาณการค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นกรอบงบประมาณไว้ล่วงหน้า (Multiyear-budget Framework)

3.ให้ภาคเอกชนจาก 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนา โดยภาคเอกชนมีบทบาทหลักในการสนับสนุนแหล่งเงินทุน และภาครัฐมีบทบาทในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้จัดตั้งคณะกรรมการสานพลังประชารัฐของทั้ง 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการทำวิจัยและพัฒนา และมีอำนาจหน้าที่ในการรับรองการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

4.ให้ผู้ร่วมว่าจ้างการทำวิจัยและพัฒนา และผู้ทำวิจัยและพัฒนาร่วมพิจารณาตกลงเรื่องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาตามความเหมาะสม

ด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีนั้น นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ครม.ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาร่วมกันสำหรับ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ ดังนี้

1.ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และกลุ่มบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่มีค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาร่วมกันตามโครงการสานพลังประชารัฐและได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการสานพลังประชารัฐเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะด้านใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักนำมาหักเป็นรายจ่ายเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้สูงสุด 3 เท่าเป็นระยะเวลา 3 รอบระยะเวลาบัญชี สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2560 – 31 ธันวาคม 2562

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแต่ละรายดังกล่าวที่ได้จ่ายไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต้องไม่เกินกว่าสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 598) พ.ศ. 2559

2.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและกลุ่มบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมตามข้อ 1.ต้องไม่ถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม และไม่มีอำนาจควบคุมหรือกำกับดูแลการดำเนินงานและบริหารงานไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนของผู้รับทำการวิจัยที่ได้รับรายจ่ายจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว รวมทั้งต้องไม่นำรายจ่ายดังกล่าวไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ในการดำเนินการขับเคลื่อนและการกำกับดูแลนั้น ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานหลักในการจัดตั้งคณะกรรมการสานพลังประชารัฐของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินการขับเคลื่อนกรอบแนวทางฯ และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เช่น การอนุมัติโครงการวิจัย การรับรองค่าใช้จ่ายของแต่ละบริษัทที่จ่ายให้กับผู้รับจ้างทำการวิจัย และการขึ้นทะเบียนการเป็นผู้รับทำวิจัย เป็นต้น

สำหรับผลประโยชน์ที่ได้รับ จะทำให้ภาคเอกชนหรือภาครัฐได้นวัตกรรมที่ตรงตามความต้องการและวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้พัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายและใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน กลุ่มบริษัทเอกชน หรือนิติบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศมีแรงจูงใจในการผลักดันให้เกิดการทำวิจัยและพัฒนาตลอดจนเกิดการผลักดันให้มีการสร้างองค์ความรู้ ชี้แนะ และสนับสนุน (Mentoring) ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs/Startups อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้มีการลงทุนใช้จ่ายเพื่อทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Expenditure on R&D : GERD) มากกว่า 1% หรือ 130,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ