พาณิชย์เร่งติดอาวุธทางปัญญาสร้างความเข้มแข็งให้ SMEs พร้อมก้าวสู่ตลาดโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 10, 2017 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดอาวุธทางปัญญาให้กับผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งจากภายในให้พร้อมในการก้าวสู่ตลาดโลก เพราะ SMEs ถือเป็นกลไกหลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

แนวทางในการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ไทยมีความเข้มแข็งและทันต่อกระแสโลกธุรกิจในอนาคตตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างความเข้มแข็งจากภายใน เชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยสู่โลก อาทิ

1.การพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ให้เป็นมืออาชีพ ได้แก่ โครงการ DBD Modern Entrepreneurs ที่คัดเลือกนักธุรกิจรุ่นใหม่มาอบรมให้เป็นผู้ประกอบการที่นำนวัตกรรมมาประยุกต์หรือนักธุรกิจมืออาชีพ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในการพัฒนาต่อยอดเป็นผู้ส่งออก และโครงการ DBD Advance Creative Marketer หรือ นักการตลาดเชิงสร้างสรรค์ จะเป็นการพัฒนาศักยภาพด้านกลยุทธ์และนวัตกรรมของการเป็นผู้นำด้านการตลาดสมัยใหม่

2.การจัดตั้งสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy : NEA) ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการ SMEs ของไทยให้พร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ผ่านเครือข่ายความร่วมมือที่เชื่อมต่อกันทั่วประเทศ ทั้งนี้มีผลสำเร็จของการดำเนินการสัมมนาและฝึกอบรมให้แก่ผู้ประกอบการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่ผ่านมา อาทิ หลักสูตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันหลักสูตรการรับมือเศรษฐกิจยุคใหม่ (New Economy) หลักสูตรเฉพาะสำหรับกลุ่มธุรกิจหลักสูตร Smart Businessman และหลักสูตรเตรียมความพร้อมเจาะตลาดโลก เป็นต้น

3.การปฏิรูปอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมสมุนไพรและการตลาด กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งทีมขับเคลื่อน (Task force) กำหนดสมุนไพรที่มีศักยภาพในการทำตลาดจำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ขมิ้นชัน ไพล บัวบก และกระชายดำ มีประเทศเป้าหมายหลัก คือ อาเซียน รวมทั้งผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือ Herbal Expo ในระดับ ASEAN

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า นอกจากจะช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ให้มีความเข้มแข็งจากภายในแล้ว กระทรวงฯ ยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการจะขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งในปีนี้ กระทรวงฯ ตั้งเป้าหมายการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 โดยมีแนวทางการขับเคลื่อน ดังนี้

1.การเจรจาความตกลงการค้าแบบทวิภาคีทั้งรูปแบบความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) และความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (Strategic Partnership) ซึ่งเป็นกรอบความตกลงที่เล็กลงเป็นรายอุตสาหกรรม รายสินค้า เพื่อให้ความตกลงระหว่างกันบรรลุเร็วขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกแก่การค้าการลงทุน

2.การใช้หลักการ 3 New คือ New Product นำสินค้าใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มเข้าสู่ตลาด New Place เจาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และ New People ทำการค้ากับลูกค้ากลุ่มใหม่ เช่น ผู้บริโภคสินค้าฮาลาล กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง

3.การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ (Outward Investment) ผ่านคณะทำงานด้านการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศ (D4) ด้วยการให้ภาคเอกชนรายใหญ่ที่เคยไปลงทุนแล้วเป็นพี่เลี้ยงให้แก่เอกชนรายอื่น หรือแบบเพื่อนช่วยเพื่อน อีกทั้งเพิ่มเติมแนวคิดที่ปรึกษาระดับภูมิภาค หรือ Regional Advisor เน้นเป็นรายภูมิภาคเชิงรุก โดยเชิญภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละภูมิภาครวม 7 ภูมิภาคมาเป็นที่ปรึกษา เพื่อร่วมจัดทำแผนผลักดันการส่งออกทั้งระยะสั้นและระยะยาว

4.การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าระดับนานาชาติ เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการต่างประเทศให้เข้ามาซื้อสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้ประกอบการจากทั่วโลกได้เห็นศักยภาพของสินค้าไทยจำนวน 2 งาน ได้แก่ งาน Thaifex World of Food ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-4 มิ.ย.60 ควบคู่กับงาน Thailand Rice Convention ซึ่งจัดงานวันที่ 28-30 พ.ค.60 โดยคาดว่าจะมีผู้ซื้อสินค้าอาหารและสินค้าเกษตร ผู้เข้าร่วมเจรจาการค้า ตลอดจนผู้เข้าร่วมงานกว่า 150,000 คน


แท็ก อภิรดี   SME  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ