นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่าในช่วงเปิดเทอมปีนี้จะมีการใช้จ่ายเงินรวม 50,196.81 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.14% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีมูลค่า 49,145 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าการใช้จ่ายสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มสำรวจเมื่อปี 53 ที่มีค่าใช้จ่าย 38,377 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นค่าใช้จ่ายต่อคนจะอยู่ที่ 12,295.70 บาท ซึ่งผู้ตอบ 53.3% ระบุค่าใช้จ่ายในปีนี้เพิ่มขึ้นถึงเพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วน 20.1% ตอบเท่าเดิม และอีก 16.7% ตอบน้อยลงถึงน้อยลงมาก อย่างไรก็ตาม คนที่ตอบค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเพราะรายได้สูงขึ้น จึงซื้อของเพิ่มจำนวนชิ้น รวมถึงราคาสินค้าแพงขึ้น ภาระหนี้สินลดลง และภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่คนตอบค่าใช้น้อยลง เพราะรายได้ลดลง ดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง/ใช้ของเก่า-ของพี่ ไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจไทย มีภาระหนี้มาก และราคาของแพงขึ้น
สำหรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว แบ่งเป็น ค่าเล่าเรียน/ค่าหน่วยกิต 13,894.83 บาท เพิ่มขึ้น 41.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน, ค่าบำรุงโรงเรียนตามปกติ 2,133 บาท เพิ่มขึ้น 42.9%, ค่าบำรุงโรงเรียนกรณีเปลี่ยนโรงเรียน/แป๊ะเจี๊ยะ 9,138.63 บาท เพิ่มขึ้น 47.1%, ค่าหนังสือ 1,642.34 บาท เพิ่มขึ้น 34.2%, ค่าอุปกรณ์การเรียน 1,928.79 บาท เพิ่มขึ้น 35.1%, ค่าเสื้อผ้า 1,267.20 บาท เพิ่มขึ้น 49% เป็นต้น นอกจากนี้ เมื่อถามว่า มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมหรือไม่ ผู้ตอบ 46.9% ตอบเพียงพอ ส่วนอีก 53.1% ตอบไม่เพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่จะหาเงินโดยการจำนำทรัพย์สิน กู้ยืมเงินนอกและในระบบ ยืมญาติพี่น้อง เบิกเงินสดจากบัตรเครดิต เสี่ยงโชค
"ค่าใช้จ่ายช่วงเปิดทอมปีนี้เพิ่มขึ้นสูงสุด เพราะของแพงขึ้น แต่อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียง 2.14% ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนยังระมัดระวังการใช้จ่าย คนที่มีรายได้น้อยยังซื้อของน้อยชิ้น อะไรที่ยังใช้ได้ก็ยังใช้อยู่ หรือใช้ของพี่ เพราะแม้เศรษฐกิจมหภาคดีขึ้น แต่ยังไม่กระจายไปยังทุกพื้นที่ เศรษฐกิจของประชาชนยังไม่ดีขึ้นจริง จึงระมัดระวังการก่อหนี้ แต่เพื่อการศึกษาของบุตรหลาน ผู้ปกครองพร้อมก่อหนี้ในระยะสั้น"
ม.หอการค้า ได้สำรวจผู้ปกครอง (ในระดับต่ำกว่าปริญญาตรี และนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในระดับมหาวิทยาลัย) จำนวน 1,202 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-9 พ.ค.60