สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรก ปี 2560 อยู่ที่ 3.3% จากตลาดคาดโต 3-3.2% ขณะที่ทั้งปี 60 คาดว่า GDP จะขยายตัว 3.3-3.8%
ปัจจัยสนับสนุนจาก การฟื้นตัวของการส่งออกตามการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและราคาสินค้าในตลาดโลก, การขยายตัวของการลงทุนภาครัฐที่อยู่ในเกณฑ์สูงและเร่งขึ้น, การปรับตัวดีขึ้นของการผลิตสินค้าเกษตรและราคาสินค้าเกษตรที่อยังอยู่ในเกณฑ์ดี, การขยายตัวของภาคท่องเที่ยวที่ยังสนับสนุนเศณษบกิจอย่างต่อเนื่อง และการปรับตัวดีขึ้นของตลาดรถยนต์ในประเทศ ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 3.6% การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนรวม ขยายตัว 3.0% และ 4.4% ตามลำดับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในช่วง 0.8-1.3% และบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 8.9% ของ GDP
นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สศช.กล่าวว่า สำหรับประมาณการอัตราเติบโตทั้งปีนี้ที่คาดการณ์ในระดับ 3.3-3.8% เป็นการปรับกรอบให้แคบลงจากคราวก่อนที่ 3-4% โดยยังคงค่ากลางไว้เท่าเดิมที่ 3.5% เนื่อบจาก สศช.มีความมั่นใจต่อคาดการณ์ดังกล่าวมากขึ้น โดยสมมติฐานส่วนใหญ่ยังคงอยู่เท่าเดิม คือ เศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.3% ปริมาณการค้าโลกเติบโต 3.6% ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เฉลี่ยอยู่ที่ 47-47 ดอลลาร์/บาร์เรล รายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.93 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8%
"มีเพียงการปรับสมมติฐานเรื่องค่าเงินบาทมาอยู่ที่ 35-36 บาท/ดอลลาร์ พร้อมมองว่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงตามแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้"นายปรเมธี กล่าว