นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานเอกอัครราชทูตเยอรมัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และหอการค้าเยอรมัน-ไทย จัดการประชุม “Industrie 4.0 in Thailand 4.0 : German-Thai Partnership for the Industry of Tomorrow" เพื่อร่วมหารือวางแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตาม โรดแมพไทยแลนด์ 4.0 ตั้งเป้าพัฒนาแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 ของไทย และความร่วมมือระหว่างไทย-เยอรมันในสาขาสำคัญ เช่น การยกระดับ SME และพัฒนาทักษะแรงงานสู่อุตสาหกรรม 4.0 พัฒนานโยบายวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
ภารกิจสำคัญของกระทรวงฯ ในขณะนี้ คือการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันโดยกระทรวงได้วางยุทธศาสตร์ให้สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เน้นการดำเนินงานในสี่ส่วนสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมเป้าหมาย (core technologies for target industries) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) การส่งเสริม SME เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตลอดจนใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและการพัฒนาทักษะแรงงานรองรับอุตสาหกรรม 4.0 การประชุมในวันนี้เป็นการกระตุ้นให้เกิดการหารือเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนากลยุทธ์และมาตรการในการปรับตัวของอุตสาหกรรมไทย โดยดึงเยอรมันซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรม 4.0 มาร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม
ด้านนายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเด็นการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 นั้น มีความซับซ้อน ครอบคลุมประเด็นที่หลากหลายทั้งด้านเทคโนโลยี มาตรฐาน การพัฒนากำลังแรงงานโครงสร้างพื้นฐาน และกฎหมายกฎระเบียบ จำเป็นต้องมีความเชื่อมโยงกับหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกันเชิงบูรณาการ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมีแนวคิดในการพัฒนาแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0 Platform) เพื่อเป็นกลไกกลางในการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งด้านการกำหนดนโยบายและขับเคลื่อนการดำเนินงาน
ทั้งนื้ ปัจจุบันหน่วยงาน ต่าง ๆ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม มีการสนับสนุน SMEs ให้ปรับตัวเพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 อาทิ สถาบันไทย-เยอรมัน สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยล่าสุด กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กำลังจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมงานวิจัยสู่อุตสาหกรรมในอนาคต (Industry Transformation Center) เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงงานวิจัยไปสู่ภาคอุตสาหกรรมสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม หรือ startups ในการปรับตัวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งได้นำแนวคิดหลักการพัฒนา Industry 4.0 ที่มีประสิทธิภาพของเยอรมัน อาทิ Technische Universitaet Darmstadt (TU Darmstadt) และ Karlsruhe Institute of Technology (KIT) รวมถึง Fraunhofer Institute for Industrial Engineering IAO มาประยุกต์ใช้ด้วย
นายเจน นำชัยศิริ ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 ของสภาอุตสาหกรรมฯ ได้ทำการสำรวจสถานะอุตสาหกรรมไทย และพบว่าประมาณ 70% ยังอยู่ในระดับอุตสาหกรรม 2.0-2.5 สภาอุตสาหกรรมฯ จึงกำหนดเป้าหมายเบื้องต้นในการสร้างความตระหนัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SME มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากร 3 กลุ่ม ได้แก่ คือ กลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรกลที่จะช่วยยกระดับจากอุตสาหกรรม 2.0-2.5 ไปเป็นอุตสาหกรรม 3.0 กลุ่ม System Integrator ที่จะนำกลไกต่างๆ มาเชื่อมโยงให้เป็นระบบและกลุ่มผู้ดูแลรักษาระบบให้มีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นจึงจะพัฒนาต่อเนื่องไปสู่ระดับอุตสาหกรรม 4.0
"อุตสาหกรรม 4.0 ไม่ใช่สิ่งเดียวกับไทยแลนด์ 4.0 แต่เป็นการผลิตที่ยกระดับด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะทำให้เครื่องจักรต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยงการทำงานเป็นระบบ มีการสื่อสารระหว่างกัน รวมถึงมีการผลิตด้วยความเร็วสูงและมีความยืดหยุ่น เกิดนวัตกรรมของบริการและสินค้าใหม่ ๆ สิ่งที่ตามมาคือการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางที่ประชุมได้หารือและมีข้อสรุปร่วมกันว่า ในการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรม 4.0 มีความจำเป็นจะต้องบูรณาการนโยบายอุตสาหกรรม นโยบายพัฒนาวิสาหกิจ นโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และนโยบายการศึกษา รวมถึงการพัฒนาและปรับเปลี่ยนทักษะของแรงงาน ให้สอดคล้องและส่งเสริมกัน และเสนอว่าแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 ควรเป็นกลไกกลางในการบูรณาการนโยบายของหน่วยงานภาครัฐและเชื่อมโยงการขับเคลื่อนการดำเนินงานกับภาคเอกชน รวมถึงความร่วมมือกับต่างประเทศ"