SCBEIC คาดศก.ไทยปีนี้โต 3.3% จากแรงหนุนมาตรการกระตุ้นศก.-ใช้จ่ายครัวเรือน-รายได้ท่องเที่ยว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 15, 2017 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBEIC) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดทั้งปี 2560 โตกว่า 3.3%YOY มีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญมาจาก 1.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะเม็ดเงินอัดฉีดจากงบกลางปี 2560 มูลค่า 1.9 แสนล้านบาท ที่จะกระจายสู่เศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงการขนาดเล็กในต่างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งภาครัฐยังมีมาตรการให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจากโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจะเริ่มเบิกจ่ายในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป 2.กำลังซื้อภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นหลังครัวเรือนบางส่วนหมดภาระการผ่อนชำระรถยนต์จากโครงการรถคันแรก ซึ่งจะเห็นผลชัดในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งรายได้ครัวเรือนภาคเกษตรที่น่าจะยังได้รับผลดีจากราคาผลผลิตที่อยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน ประกอบกับการจ้างงานที่จะปรับตัวดีขึ้นตามแรงกระตุ้นภาครัฐในครึ่งปีหลัง 3.รายได้ในภาคการท่องเที่ยวที่จะดีขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ โดยการเข้ามาของจำนวนนักท่องเที่ยวมีโอกาสขยายตัวสูงในไตรมาสสุดท้ายจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อน

อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มเติบโตชะลอลงในช่วงที่เหลือของปี อัตราการขยายตัวของราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มที่จะเริ่มชะลอลงในช่วงหลังจากนี้ อาจส่งผลให้การส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าวไม่สามารถขยายตัวได้สูงเทียบเท่ากับในไตรมาสแรกของปี นอกจากนี้ ภาคการส่งออกไทยยังเผชิญความเสี่ยงจากภายนอกอยู่มาก จากนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯเริ่มตึงเครียดมากขึ้นในประเด็นที่ไทยเป็นหนึ่งใน 16 ประเทศคู่ค้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งตรวจสอบและหามาตรการเพื่อลดการขาดดุลการค้า โดยอาจเริ่มเห็นผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป

ในขณะเดียวกันแม้ความกังวล Frexit ลดลงจากที่ Emmanuel Macron เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปยังคงมีอยู่ จาก 1.แรงกดดันต่อการเจรจา Brexit อาจรุนแรงมากขึ้นจากแนวทางของสหภาพยุโรปที่ไม่ต้องการให้มี Free Brexit 2.ผลจากนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของฝรั่งเศสอาจไม่เป็นไปตามคาด และ 3.การเลือกตั้งผู้นำในเยอรมนีและอิตาลีที่กำลังจะมาถึง

"ความเสี่ยงที่กล่าวข้างต้น มีผลออกมาในทางลบ จะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และปริมาณการค้าโลกชะลอตัวลง ซึ่งกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย และกำลังซื้อของคนในประเทศให้ชะลอลงมากกว่าที่คาดได้" เอกสารเผยแพร่ระบุ

โดยวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 1 ปี 2560 ขยายตัว 3.3%YOY (เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) หรือเติบโต 1.3% QOQSA หากเทียบกับไตรมาสก่อนแบบปรับฤดูกาล

โดยการส่งออกสินค้าขยายตัว 2.6%YOY เติบโตสูงสุดในรอบ 4 ปี จากการฟื้นตัวของสินค้าที่ครอบคลุมในหลายหมวดมากขึ้น และเติบโตได้ดีในเกือบทุกตลาดส่งออก ยกเว้นการส่งออกรถยนต์นั่งไปยังตลาดตะวันออกกลาง ทั้งนี้ การฟื้นตัวของภาคการส่งออกได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งปัจจัยด้านราคาและปริมาณ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 12% โดยนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 32% สะท้อนการฟื้นตัวจากแรงกดดันระยะสั้นเรื่องการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย

การบริโภคภาคเอกชนยังไปต่อ แต่กระจายตัวไม่ทั่วถึง โดยขยายตัวได้ 3.2%YOY นำโดยการบริโภคสินค้าคงทนที่พลิกกลับมาขยายตัวได้สูงหลังจากหดตัวลงในไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี การบริโภคที่ขยายตัวนั้นยังกระจุกตัวอยู่ในสินค้าคงทน ซึ่งมาจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของครัวเรือนบางกลุ่มเท่านั้น ส่วนการบริโภคสินค้าไม่คงทนและกึ่งคงทนยังทรงตัว เนื่องจากรายได้ครัวเรือนโดยรวมยังไม่ฟื้นตัว

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัว แม้ว่าการลงทุนภาครัฐจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 9.7%YOY ตามการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการทั้งที่เป็นโครงการต่อเนื่องและโครงการที่เริ่มสร้างใหม่ในปีนี้ แต่การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัวที่ 1.1%YOY จากการลงทุนเพื่อการผลิตที่ยังซบเซา เนื่องจากกำลังการผลิตที่ยังมีเหลือ ทั้งการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่หดตัว 11.6%YOY การซื้อเครื่องมือเครื่องจักรลดลง 0.3%YOY รวมไปถึงการก่อสร้างอื่นๆ ที่หดตัวลงมากจากผลของฐานสูงในปีก่อนที่มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนระดับตำบล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ