นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจภาพยนตร์ของไทยที่เดินทางไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ว่า ผู้ประกอบการอยากให้กระทรวงฯ ช่วยประสานเรื่องการผลิตบุคลากรในสายงานนี้ให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการเปิดสอนหลักสูตรภาพยนตร์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งเตรียมเวทีสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เพื่อเปิดโอกาสในการแสดงและขายผลงาน ตลอดจนกำหนดมาตรการทางภาษีเพื่อจูงใจให้คนเข้ามาในอุตสาหกรรมหนังมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มของการสร้างภาพยนตร์ในอนาคต คาดว่า จะเป็นเรื่องของการทำงานในลักษณะของ Co Production กันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เกิดแนวคิดการทำงานที่หลากหลาย และจะเป็นการสร้างช่องทางการตลาดให้กว้างขึ้น สำหรับภาพยนตร์ไทยที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ และแนว Action เช่น มวยไทย เป็นต้น
"กระทรวงฯ ยังคงเดินหน้าจัดให้มีคณะผู้แทนการค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางไปเข้าร่วมงานแสดงที่เกี่ยวข้อง และนัดหมายเจรจาการค้าอย่างต่อเนื่องในตลาดเป้าหมาย รวมทั้งจะนำข้อเสนอของภาคเอกชนมาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้ผลักดันให้มีการนำนักธุรกิจไปเจรจาการค้าและเข้าร่วมเสนองานในประเทศเป้าหมายมาโดยตลอด สามารถสร้างรายได้ถึงกว่า 30,000 ล้านบาท ทั้งยังช่วยให้อุตสาหกรรมข้างเคียงพลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย เช่น อุตสาหกรรมตัดต่อ ลงเสียง เช่ารถ จัดเลี้ยง นักแสดง ช่างแต่งหน้า ฯลฯ" นางอภิรดี กล่าว
งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ถือเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ของโลก โดยการจัดงานในครั้งที่ผ่านมามีพื้นที่จัดแสดงถึง 13,000 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นงานแสดงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์ รวมทั้งผู้ซื้อภาพยนตร์จากทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 14,000 คน ผู้สร้างภาพยนตร์ 3,200 คน และผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ 12,000 คน เป็นเวทีที่บุคคลในวงการภาพยนตร์จากทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่จะได้แสดงผลงานเพื่อก่อให้เกิดการซื้อขายหรือการร่วมทุนสร้าง (Co Production) ภาพยนตร์กันต่อไปในอนาคต โดยในปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยสามารถขายผลงานภายในงานดังกล่าวนี้ได้สูงถึงเกือบ 500 ล้านบาท