นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า เนื่องจากการดำเนินงานโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ในระยะที่ 2 นี้ ในทางปฏิบัติมีข้อจำกัด ในเรื่องระยะเวลาในการดำเนินงานและข้อกำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจส่งผลทำให้โครงการไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
"เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีการประชุม ครั้งที่ 2/2560 (ครั้งที่ 12) และมีมติเห็นชอบการเลื่อนกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ของโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2560 (ระยะที่ 2) จากเดิมภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 เป็นวันที่ 30 ธันวาคม 2561"
ดังนั้น กกพ. จึงได้ออกประกาศในโครงการนี้ (ฉบับที่ 3) ขึ้น และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2560 โดยมีเนื้อหาสาระที่มีการปรับปรุงแก้ไขในประกาศฉบับแรก ในเรื่องการเลื่อนกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบพาณิชย์ (SCOD) ตามที่ได้กล่าวมาในข้างต้น รวมถึงเรื่องสำคัญต่างๆ ได้แก่ เรื่องให้ขยายกำหนดระยะเวลาการตรวจสอบจุดเชื่อมโยงระบบไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจากเดิมกำหนดระยะเวลาในระหว่างวันที่ 8 – 19 พฤษภาคม 2560 เป็นระหว่างวันที่ 8 – 24 พฤษภาคม 2560
นอกจากนี้ ในประกาศฯ (ฉบับที่ 3) ได้มีการยกเลิกเอกสารแนบท้ายในประกาศฯ ฉบับแรก และให้ใช้เอกสารแนบท้ายฉบับใหม่ ตามแนบท้ายประกาศฯ (ฉบับที่ 3) แทน ในเรื่อง (1) ข้อมูลศักยภาพของระบบไฟฟ้า ปี 2561 ของ กฟน. ในส่วนของหมายเลขสายป้อนสถานีไฟฟ้าย่อยไทรน้อย และหมายเลขสายป้อนสถานีไฟฟ้าย่อยรามคำแหงให้ถูกต้องตามที่ได้รับแจ้งจาก กฟน. (2) แบบคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้า แบบ ข. สหกรณ์ภาคการเกษตร เพื่อให้เป็นไปตาม พรบ. สหกรณ์ มาตรา 51 ซึ่งกำหนดให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เป็นผู้ดำเนินการในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก และ (3) ข้อกำหนดการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า แบบ ก. ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า 2558 ของ กฟน.