ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.40 อ่อนค่าจากช่วงเช้า หลังตัวเลขส่งออกเม.ย.ต่ำกว่าคาด-เกิดเหตุระเบิดรพ.พระมงกุฎ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 22, 2017 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.40 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่ระดับ 34.35 บาท/ดอลลาร์ หลังตัวเลขภาวะการค้าระหว่างประเทศในเดือน เม.ย.60 ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศออก มาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับความวิตกกรณีเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหว ในกรอบ 34.33-34.42 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทแกว่งตัวในกรอบค่อนข้างกว้าง ช่วงบ่ายเริ่มอ่อนค่าหลังตัวเลขส่งออกและดุลการค้าต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วน เหตุระเบิดก็ส่งผลบ้างเพราะเกิดเหตุกลางใจเมือง แต่เป็นปัจจัยแค่ช่วงสั้นๆ ปัจจัยระยะยาวยังเป็นเรื่องปัญหาการเมืองของสหรัฐ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.30-34.45 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 111.41 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.53 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1215 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1186 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,557.73 จุด เพิ่มขึ้น 8.09 จุด, +0.52% มูลค่าการซื้อขาย 38,489.70 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 177.65 ล้านบาท(SET+MAI)
  • กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน เม.ย.60 การส่งออกมีมูลค่า 16,864 ล้าน
ดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 8.5% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 16,808 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 13.4% ส่งผลให้ดุลการค้า เม.ย.
เกินดุล 56.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 60 มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มที่จะ
ขยายตัวได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ 5.0%
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมวันที่ 24 พ.ค. 60 น่าจะคงอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ต่อเนื่อง และน่าจะส่งสัญญาณยืนดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะ หลังพัฒนาการเศรษฐกิจไทยและ
เศรษฐกิจโลกทยอยปรับดีขึ้นตามลำดับ
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (BAY) คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ไว้ที่ 1.50% ในวันที่ 24 พ.ค.60 โดยล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าหนี้สินภาคครัวเรือนซึ่งเคยสูงกว่า 80% ต่อจี
ดีพี มีแนวโน้มลดลงอย่างช้าๆ หลังสินเชื่อจากโครงการรถยนต์คันแรกทยอยหมดลงและเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ธปท.กล่าวว่ายัง
ติดตามดูแลค่าเงินบาทเป็นปกติ โดยหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ทางการเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน
มากนักเนื่องจากตลาดได้รับรู้การคาดการณ์ดังกล่าวไปแล้ว ท่าทีของธปท.สะท้อนว่า นโยบายการเงินของไทยในปัจจุบันยังเอื้อต่อการ
ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคส่งออกและการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นแต่เงินเฟ้อยังคงกระเตื้องขึ้นช้ากว่าที่ประเมินไว้ รวมถึง
ทิศทางแข็งค่าของเงินบาท สนับสนุนมุมมองของกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ที่ว่า กนง.จะยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่าช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะสามารถทำกำไรได้
ดีเช่นเดียวกับช่วงไตรมาส 1/60 ที่กำไร บจ.เติบโตถึงกว่า 21% ขณะที่แนวโน้มเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) ยังคง
ไหลเข้า เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้ดี และ ตลท.เตรียมจัดงานใหญ่เพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดทุนไทย
  • รัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตรียมประชุมเพื่อ
หาทางออกเกี่ยวกับการบรรเทาภาระหนี้ให้กับกรีซในวันนี้ ท่ามกลางความเห็นที่ไม่ลงรอยกันระหว่างบรรดาเจ้าหนี้เกี่ยวกับเงื่อนไข
ต่างๆก่อนที่จะมีการอนุมัติเงินกู้งวดใหม่ เพื่อให้กรีซนำไปชำระหนี้จำนวน 7.3 พันล้านยูโรในเดือนก.ค.
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงิน 4 หมื่นล้านหยวน (5.8 พันล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ ผ่าน
การดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ OMO เพื่อบรรเทาภาวะสภาพคล่องตึงตัว
  • สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติของจีน (CNTA) คาดการณ์ว่า การลงทุนด้านการท่องเที่ยวของจีนจะเติบโตอย่าง
รวดเร็วในปี 2560 เนื่องจากการอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น จะช่วยยกระดับการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
  • เลขาธิการองค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงโตเกียวในวันนี้ โดยได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการ
ค้าพหุภาคีที่มีส่วนช่วยการสร้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมกับคัดค้านแนวคิดที่ว่าการค้าทำให้ความเหลื่อมล้ำสูงขึ้น
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้เดินทางถึงยังประเทศอิสราเอลแล้วในวันนี้ โดยคาดว่าผู้นำสหรัฐจะได้

ร่วมประชุมเกี่ยวกับการเจรจาสร้างสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ รวมทั้งตอกย้ำจุดยืนของสหรัฐกับอิสราเอล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ