นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล ปลัดประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กรทะรวงฯ จัดเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับแก้ไข พ.ศ. 2560) ในวันนี้ ว่า การจัดทำร่างประกาศฯ มีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองและปกป้องสิทธิให้กับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ มีสาระสำคัญเพื่อช่วยให้การทำธุรกิจและการใช้คอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ได้มุ่งหวังจะไปริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ได้ทำให้เกิดซิงเกิ้ลเกตเวย์หรือกลไกที่จะละเมิดสิทธิของประชาชน กระทรวงฯ ได้ดำเนินการตามสิทธิมนุษยชน การดำเนินการระงับการเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฏหมายเป็นไปตามหลักสากล หลังจากรับฟังในส่วนกลางแล้วจะรับฟังความเห็นจากประชาชนในส่วนภูมิภาคก่อนจะสรุปและนำประกาศใช้ภายใน 60 วัน
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญกฎหมายไอที เปิดเผยว่า ร่างกฏหมายลำดับรองตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ทั้ง 5 ฉบับ ครอบคลุม 5 ประเด็นสำคัญ คือ ลักษณะและวิธีการส่งและลักษณะและปริมาณของข้อมูลความถี่และวิธีการส่งซึ่งไม่เป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับ, ขั้นตอนการแจ้งเตือนการระงับการกระทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์, การแต่งตั้งคณะกรรมการเปรียบเทียบตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, การแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และหลักเกณฑ์ ระยะเวลาและวิธีการปฏิบัติสำหรับการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหาร ร่างประกาศฯ ทั้ง 5 ฉบับจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ประกอบการหรือทำงานโดยสุจริต โดยร่างประกาศลักษณะและปริมาณของข้อมูลฯ ร่างหลักเกณฑ์ ระยะเวลาและวิธีการปฏิบัติสำหรับการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบ ข้อมูลฯเป็นการดูแลผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิด โดยถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำข้อมูลที่ผิดกฎหมายขึ้นไปเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต หากมีการระงับลบข้อมูลตามกำหนดเวลาตามคำสั่งศาลก็ไม่ต้องรับผิด
สำหรับประเด็นที่อาจจะต้องมีการพิจารณาเพิ่มเติมในร่างประกาศ คือ เรื่องการระงับเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายเนื่องจากพ.ร.บ.กำหนดให้ระงับข้อมูลที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีและความสงบเรียบร้อยฯ กระทรวงดีอีได้ตั้งคณะทำงานเชิญอัยการผู้พิพากษามาให้ความเห็นในการกำหนดหลักเกณฑ์พิจารณาว่าเรื่องใดเข้าข่ายเรื่องที่ไม่ขัดกฎหมาย แต่ขัดต่อความสงบและศีลธรรมอันดี โดยเมื่อทำหลักเกณฑ์เสร็จแล้วจะให้ประชาชนแสดความคิดเห็นโดยการทำร่างประกาศจะต้องทำให้เสร็จและประกาศใช้ภายในวันที่ 24 ก.ค.60
ส่วนประเด็นเรื่องการตั้งศูนย์กลางเชื่อมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตได้ตัดออกไป จึงมั่นใจว่าไม่มีเรื่องของซิงเกิ้ลเกตเวย์แน่นอน