พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 2 ปีว่า ถือว่าประสบผลสำเร็จแม้มีบ้างที่ยังมีการทำสลากชุดขายเกินราคา แต่ส่วนใหญ่ยังขายในราคา 80 บาท โดยในระยะที่ผ่านมาได้ดำเนินการในส่วนของการปรับแผนและทิศทางการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อนำสลากมากระจายให้กับผู้ขายจริง/ผู้ค้ารายย่อย ให้มากที่สุด เช่น การนำสลากที่ตัวแทนจำหน่ายไม่มารับ หรือสลากที่ได้จากการยกเลิกสัญญา มาเข้าสู่ระบบซื้อ-จองล่วงหน้า รวมถึงมาตรการกวดขันไม่ให้จำหน่ายสลากเกินราคา ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น โดยชุดตรวจพิเศษ ที่บูรณาการระหว่างทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง หากพบผู้ที่จำหน่ายสลากเกินราคาจะจับกุมและตัดโควตาในทันที ที่ผ่านมา สำนักงานฯได้ทำการยกเลิกสัญญาตัวแทนจำหน่ายที่ทำผิดสัญญาไปแล้ว จำนวน 2,131 ราย และยกเลิกสิทธิ์ในการทำการซื้อ – จอง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามประกาศประกาศสำนักงานฯ จำนวน 483 ราย รวมทั้งสิ้น 2,614 ราย ซึ่งสลากที่ได้คืนจากผู้ที่ถูกตัดโควตาก็จะนำกลับมาเพิ่มเติมให้กับผู้จำหน่ายที่แท้จริง
ในส่วนผลการดำเนินงานนั้น ตั้งแต่ปี 59 สำนักงานสลากฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด โดยสรุปส่งเงินรายได้แผ่นดิน ในปี 59 เพิ่มขึ้นจาก ปี 58 ถึง 10,486 ล้านบาท อีกทั้งการเบิกจ่ายงบลงทุนของสำนักงานสลากฯ เป็นไปตามแผน เนื่องจากมีการเร่งรัดติดตามเป็นประจำทุกเดือน โดยคณะกรรมการบริหารเงินที่คณะกรรมการสลากแต่งตั้งขึ้น
สำหรับการดำเนินการนโยบายในระยะที่ 3 นั้น สำนักงานสลากฯจะทำการปรับปรุงรูปแบบสลาก จากเดิม ฉบับคู่ 80 บาท (ฉบับละ 40 บาท) เป็นฉบับละ 80 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ป้องกันความสับสน สามารถตรวจสอบได้ง่าย และเป็นการปรับรูปแบบสลากให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเพิ่มระบบป้องกันการปลอมแปลงสลาก ด้วยการเพิ่มความคมชัดของลายน้ำบนกระดาษให้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มระบบบาร์โค้ด 2 มิติ (2D Barcode) ที่สามารถสแกนตรวจสอบสลากได้จากเครื่องอ่านบาร์โค้ด และยังถือเป็นการช่วยตรวจสอบการปลอมแปลงตัวเลขสลากหรือสลากแก้เลขในขั้นต้นได้อีกด้วย
ส่วนประเด็นความคืบหน้าในการแก้ไขพ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากฯ กล่าวถึงรูปแบบสลากใหม่ว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯ อยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบต่าง ๆ จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ โครงสร้าง บริบทของสังคมไทยและวิถีชีวิตของประชาชน ล่าสุดได้ทำการศึกษาของประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจ จำนวนประชากร และบริบททางสังคมใกล้เคียงกับประเทศไทยมากที่สุด คาดว่าจะนำผลการศึกษาเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้ในเร็วๆ นี้ การศึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่และสลากออนไลน์นั้นต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูลรอบด้านและพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาผู้ขายสลากเกินราคาเป็นระบบและมีความยั่งยืนต่อไป