(เพิ่มเติม) สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เม.ย.60 หดตัว 1.7% YoY และลดลง 20.03% MoM

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 31, 2017 11:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน เม.ย.60 อยู่ที่ 100.07 หดตัว 1.7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 20.03% จากเดือน มี.ค.60 โดยอุตสาหกรรมยายนยนต์ยังคงหดตัวต่อเนื่อง เป็นผลจากการส่งออกไปยังประเทศในตะวันออกกลางยังคงหดตัว ประกอบกับ เดือน เม.ย.มีวันหยุดต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่าปีก่อน ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลง

อย่างไรก็ตาม พบว่าการจำหน่ายยานยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.70% เนื่องจากผู้ประกอบการมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ต้นปี รวมทั้ง การกระตุ้นตลาดหลักจากผู้ประกอบการหลังจากคาดการณ์กำลังซื้อรถมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการที่ผู้ใช้สิทธิในโครงการรถคันแรกที่หมดระยะโครงการแล้ว ทำให้ภาระหนี้ที่กู้มาซื้อรถหมดลง จึงเหลือเงินมากขึ้นในการจับจ่ายใช้สอยและการซื้อรถใหม่ทดแทน

ส่วนเครื่องประดับ ปรับตัวลดลง 22.67% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากมีการปรับการวางแผนการผลิตและจำหน่ายให้เหมาะสมกับช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์

โลหะประดิษฐ์อื่น ๆ ปรับตัวลดลง 17.87% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากการผลิตสินค้าที่แตกต่างจากปีก่อนเปลี่ยนจากกระป๋องกาแฟเป็นกระป๋องเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้ปริมาณสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายได้ลดปริมาณลง

น้ำดื่ม ปรับตัวลดลง 7.48% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากจากกระแสเรื่องการดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ในขณะที่น้ำดื่มบริสุทธิ์ เป็นผลมาจากได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากในช่วงวิกฤตภัยแล้งปีก่อน (เดือนมีนาคม-เมษายน) ส่งผลให้ทางโรงงานต้องเร่งผลิตสินค้า

ขณะที่อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มีการขยายตัว ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10.33% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากความต้องการในสินค้า other IC, monolitic IC และ transistor ในตลาดโลกเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งปัจจัยหนุนของแนวโน้มเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ และ Internet of Things (การสั่งงานอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต) ซึ่งทำให้มีการใช้งานที่แพร่หลายมากขึ้น

แป้งมัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.51% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากลูกค้าจากประเทศจีนได้มีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น อีกทั้งราคาหัวมันสดต่ำลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.50-1.80 บาท (ปี 59 ราคากิโลกรัมละ 2.35-2.80 บาท) โรงงานจึงทำการผลิตแป้งมันเพื่อสต็อกสินค้าไว้จากต้นทุนที่ต่ำลง

คอนกรีต ซีเมนต์ และปูนปลาสเตอร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.16% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นผลจากการเร่งรัดลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของภาครัฐ เช่น การขยายถนน โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน รถไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนการใช้สำหรับงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยขยายตัวได้เฉพาะตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก

อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 12.03% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากในเดือนเมษายนมีคำสั่งซื้อเตรียมใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ทำให้การส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.97% ส่วนตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นเพียง 3.03%

นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการ สศอ. เปิดเผยถึงภาพรวม 4 เดือนแรกของปี 60 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวเล็กน้อยเพียง 0.1% ซึ่งการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำแท่ง) ขยายตัวที่ 7.5% (ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6)

การนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวที่ 10.4% รวมถึงการนำเข้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำแท่ง) ขยายตัวที่ 13.1% แสดงให้เห็นถึงการความแข็งแกร่งในสินค้ากลุ่มส่งออกที่ส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แป้งมัน คอนกรีต ซีเมนต์และปูนปลาสเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ และเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน

อย่างไรก็ตาม จากการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งการนำเข้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำแท่ง) ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 13.1% ส่งสัญญาณการเตรียมการผลิตในไตรมาสหน้า แสดงให้เห็นภาพเศรษฐกิจภายในประเทศดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ