นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) แล้ว 60,000 เครื่อง ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าเป้าหมาย แต่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น เพราะจะเริ่มจับรางวัลครั้งแรกในวันที่ 16 มิ.ย.60 สำหรับผู้ประกอบการที่ติดตั้งเครื่อง EDC และผู้ใช้บัตรเดบิตชำระเงินค่าบริการและสินค้าที่มีโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่เป็นเงินสูงถึง 1 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยดึงดูดความสนใจในการติดตั้งเครื่องดังกล่าวได้
"ผู้ประกอบการบางราย บอกว่ายังไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่อง EDC เพราะยังไม่เห็นมีคนเอาบัตรเดบิตมาชำระค่าสินค้าและบริการ แต่เมื่อระบบทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ก็เชื่อว่าจะมีการติดตั้งเครื่องดังกล่าวมากขึ้น" รมว.คลังระบุ
สำหรับการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 50-60% ในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะรัฐบาลจะเป็นผู้นำในการใช้พร้อมเพย์ โดยการรับ-จ่ายเงินผ่านระบบดังกล่าว ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61 เป็นต้นไป การรับและจ่ายเงินของภาครัฐจะทำผ่านระบบพร้อมเพย์ทั้งหมด หลังจากนั้นเชื่อว่าเอกชนก็จะทำตาม เนื่องจากมีความสะดวกและลดต้นทุนการดำเนินงานได้มาก
นอกจากนี้ ได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติมรายละเอียดในการลงทะเบียนพร้อมเพย์ของประชาชนที่ได้ดำเนินการไว้ในช่วงก่อนหน้า แต่เป็นการผูกบัญชีกับเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น โดยขอให้มีการนำหมายเลขบัตรประชาชนเข้ามาผูกกับบัญชีไว้ด้วย เพื่อให้ภาครัฐ ได้แก่ กรมสรรพากร และกรมบัญชีกลาง มีความมั่นใจในการโอนเงินสวัสดิการต่างๆ ผ่านระบบพร้อมเพย์ได้ เพราะหมายเลขโทรศัพท์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่หมายเลขบัตรประชาชนไม่สามารถเปลี่ยนได้
รมว.คลัง กล่าวด้ยว่า ได้มอบหมายให้คณะทำงานไปศึกษาการใช้คิวอาร์โค้ดในการชำระเงิน เพื่อทำให้ระบบ e-Payment มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขอให้มารายงานผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการประชุมครั้งหน้า