นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ไม่ถึง 3 หมื่นบาท/ปี ซึ่งถือเป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนนั้น รัฐบาลจะจ่ายเงินเพื่อให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักแนวคิด Negative Income Tax (ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ยากจนจะไม่ต้องจ่ายภาษี แต่จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล) โดยรัฐบาลจะทยอยจ่ายให้เป็นงวดเพื่อนำไปใช้สำหรับการดำรงชีพ แต่จะไม่ใช้วิธีการจ่ายเป็นเงินก้อน เพราะเกรงว่าจะนำเงินที่ได้รับไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ทั้งนี้ การจ่ายเงินดังกล่าวมีเงื่อนไขว่าจะต้องสำแดงรายได้ที่แท้จริง เนื่องจากรัฐบาลจ่ายเงินให้ผู้มีรายได้น้อยแต่ละคนไม่เท่ากัน โดยจะมีเงื่อนไขที่สำคัญว่าผู้ที่ได้รับเงินไปแล้วต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเอง พัฒนาความรู้ความสามารถ เพื่อหารายได้ให้มากขึ้น เพื่อที่ในอนาคตจะได้หลุดพ้นจากเส้นความยากจน
รมว.คลัง ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐไว้ 14 ล้านคนว่า ขณะนี้นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 7-8 สวัสดิการ โดยเป็นการให้สวัสดิการผ่านบัตรผู้มีรายได้น้อยที่คาดว่าในเดือน ก.ย.นี้จะสามารถแจกบัตรให้กับผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติได้ และจะเริ่มใช้บัตรเพื่อรับสวัสดิการได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.60
"รายละเอียดมาตรการขณะนี้ ปลัดกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาว่าแต่ละมาตรการจะใช้เงินจำนวนเท่าไร ซึ่งทั้งหมดจะต้องไม่ทำให้การใช้งบประมาณบานปลาย มาตรการเบื้องต้น ประกอบด้วย รถเมล์ รถไฟฟรี ลดค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และในต่างจังหวัดจะช่วยค่ารถ บขส. และค่ารถไฟ ส่วนรถเมล์ก็จะมีตั๋วร่วมที่สามารถใช้กับบัตรผู้มีรายได้น้อยได้ทันที โดย ขสมก.จะติดตั้งเครื่องอ่านบัตรให้ได้ 800 คัน ภายใน ต.ค.นี้ และหลังจากนั้นจะติดครบ 2,000 คัน ภายใน 6 เดือน และในอนาคตอาจจะทำตั๋วร่วมกับรถไฟฟ้า ซึ่งจะมอบเป็นส่วนลดให้กับผู้มีรายได้น้อยได้ใช้บริการด้วย" รมว.คลัง กล่าว