นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมาธิการการค้าเสรีไทย-ชิลี ครั้งที่ 1 (The 1st Meeting of Free Trade Commission between Thailand and Chile) เพื่อติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามพันธกรณีการเปิดเสรีด้านการค้าสินค้าและบริการระหว่างกัน โดยเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี (Thailand-Chile Free Trade Agreement : TCFTA) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 พ.ย.58
โดยที่ประชุมฯ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและนโยบายด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งชิลีได้แสดงความสนใจลงทุนในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนในปักกิ่งและโตเกียว ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันในอนาคต ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความพร้อมที่จะเริ่มการเจรจาข้อบทด้านการลงทุนภายใต้ความตกลง TCFTA
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นร่วมกันว่า สินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้เป็นกลุ่มสินค้าที่ทั้งสองฝ่ายสนใจที่จะขยายตลาดระหว่างกันให้มากขึ้น แต่ยังติดปัญหามาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) ทำให้ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดได้ ทั้งๆ ที่ได้ลดภาษีระหว่างกันเป็นร้อยละ 0 ภายใต้ความตกลง FTA ไปแล้ว โดยฝ่ายไทยได้เสนอสินค้ามังคุดและลำไยเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเรื่อง SPS จากชิลี ส่วนชิลีเสนอสินค้าลูกแพร์ให้กระทรวงเกษตรฯของไทยพิจารณา รวมไปถึงสินค้าเนื้อสัตว์ (เนื้อหมูและเนื้อวัว) และผลิตภัณฑ์นมด้วย
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ผลักดันข้อเสนอความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ 2 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยการแลกเปลี่ยนการนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและการจับคู่ธุรกิจในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพร่วมกัน รวมทั้งความร่วมมือเพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจด้านการค้าและการลงทุนให้กับภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายในสาขาที่แต่ละฝ่ายมีศักยภาพ เช่น การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนการค้า การจัดสัมมนาทางธุรกิจร่วมกัน โดยสาขาที่ไทยมีศักยภาพ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และ 2) ด้าน E-Commerce โดยเสนอให้มีความร่วมมือระหว่าง Thaitrade.com กับ E-marketplace ที่มีศักยภาพของชิลี ในขณะที่ฝ่ายชิลีได้เสนอให้มีความร่วมมือระหว่างกันในด้านแรงงาน ด้านสิ่งแวดล้อม และประเด็นเรื่องเพศกับการค้า
สำหรับชิลีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 41 ของไทยกับโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยจากภูมิภาคอเมริกาใต้ ในปี 2559 การค้ารวมมีมูลค่า 895 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกมีมูลค่า 541 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่นำเข้าจากชิลีมีมูลค่า 395 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับชิลีมูลค่า 188 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ การใช้สิทธิประโยชน์ของไทยภายใต้ความตกลง TCFTA อยู่ที่ 539 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 99 ซึ่งถือว่าภาคเอกชนได้ใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีศุลกากรในสัดส่วนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ FTA อื่นของไทย โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันแสวงหาแนวทางความร่วมมือที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ SMEs ใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลง TCFTA ให้มากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ ตู้เย็นและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผลไม้กระป๋องและน้ำผลไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์พลาสติก และปูนซีเมนต์ และสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากชิลี อาทิ ทองแดง สัตว์น้ำสดแช่เย็นแช่แข็งแปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ และไวน์