นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ทั้งด้านการผลิต การแปรรูป และการตลาด โดยส่งเสริมให้มีตลาดสำหรับจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อเกษตรกรและสมาชิกในชุมชนนำผลผลิตมาขายสร้างรายได้ในท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็ดูแลตลาดต่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้การส่งออกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งดูแลการผลิตและการตลาดสินค้าข้าวที่มีเกษตรกรเกี่ยวข้องกว่า 3.7 ล้านครัวเรือนด้วย
สำหรับตลาดข้าวในต่างประเทศ สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศฯ ณ กรุงวอชิงตัน แจ้งว่า กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ ได้คาดการณ์ภาพรวมปริมาณการผลิตข้าวของโลกปี 2559/60 อยู่ที่ 481.5 ล้านตัน การบริโภค 480.1 ล้านตัน มีสต๊อก 119.8 ล้านตัน ส่วนผลผลิตในปี 2560/61 คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยประเทศผู้ผลิตข้าวที่สำคัญ ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย บังคลาเทศ เวียดนาม ไทย เมียนมา ส่วนประเทศผู้ส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ อินเดีย ไทย เวียดนาม ปากีสถาน สหรัฐอเมริกา เมียนมา กัมพูชา
ด้านการค้าข้าวโลกกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา คาดว่า การค้าข้าวโลกในปี 2560 จะมีประมาณ 41.32 ล้านตัน ปี 2561 จะมีปริมาณการค้าข้าวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 42.25 ล้านตัน โดยมีประเทศผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของโลกได้แก่ จีน ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ ซาอุดิอาระเบีย ไอเวอรี่โคสต์ อิหร่าน และอิรัก
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าข้าวของโลก กล่าวในงาน Thailand Rice Convention 2017 ว่า แนวโน้มการค้าข้าวโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น และราคาข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้นเพราะผู้ซื้อทั้งจีน แอฟริกา และฟิลิปปินส์ ยังคงมีความต้องการซื้อข้าวอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าตลาดจีนยังคงเป็นตลาดข้าวที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ซึ่งผู้บริโภคชาวจีนนิยมบริโภค และคาดว่าปี 2560 ประเทศไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 10 ล้านตัน
"แม้ว่าตลาดข้าวของไทยจะมีแนวโน้มสดใสก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ก็ยังมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเพื่อพัฒนาข้าวและสินค้าเกษตรของไทยไปสู่อาหารและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งด้านพลังงาน ความงาม และอื่นๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งสถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการนำงานวิจัยมาต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น" นางอภิรดี กล่าว