พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติก่อสร้างโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ระยะที่ 1 ตามที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ ประกอบด้วย 14 โครงการ รวมทั้งหมด 4,388 ยูนิต วงเงินลงทุนรวม 2,057 ล้านบาท และให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจำนวนดังกล่าวให้แก่การเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยแบ่งเป็น ปีงบประมาณ 2560 จำนวน 711 ล้านบาทเศษ, ปีงบประมาณ 61 จำนวน 1,279 ล้านบาทเศษ และปีงบประมาณ 62 จำนวน 66 ล้านบาทเศษ ทั้งนี้ให้ กคช.สามารถก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณได้
"โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยนี้ เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (พ.ศ.2559-2568) รวมทั้งเป็นไปตามแผนการลงทุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของ กคช. ปี 58-60 มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการแก้ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศที่ไม่สามารถซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง หรือไม่สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยประเภทเช่าที่ได้มาตรฐานในตลาดได้" พ.อ.อธิสิทธิ์ระบุ
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของโครงการดังกล่าว จะเป็นครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยที่มีขนาดครัวเรือนละประมาณ 3-4 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป พนักงานบริษัท ผู้ค้าหาบเร่/แผงลอย และมีการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ซึ่งคิดเป็นจำนวนผู้มีรายได้น้อยประมาณ 15,000 คน ทั้งนี้โครงการทั้งหมด 14 โครงการ รวม 4,388 ยูนิตนั้น ประกอบด้วย โครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 1 โครงการ จำนวน 1,029 ยูนิต และโครงการในพื้นที่ภูมิภาค 13 โครงการ จำนวน 3,359 ยูนิต ซึ่งจะคิดอัตราค่าเช่าเดือนละประมาณ 1,400-2,400 บาท
รูปแบบโครงการ จะเป็นอาคารสูง 3-5 ชั้น ลักษณะห้องเป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 28 ตารางเมตร อย่างไรก็ดี ห้องพักอาศัย 10% ของอาคารชั้นล่าง จะต้องจัดสรรให้เป็นห้องพักสำหรับการอยู่อาศัยของครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุหรือผู้พิการ และมีการออกแบบตามแนวทาง Universal Design
"โครงการนี้ กคช.คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561 จำนวน 2,771 ยูนิต และปี 2562 อีก 1,677 ยูนิต" ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ