นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมฯ จัดสัมมนา “การทดสอบความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) ในการร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ โครงการสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค" เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งของประเทศ และเพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการให้ข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะถึงโอกาส ความเป็นไปได้ และความสนใจในการร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาคของกรมการขนส่งทางบก ตาม มาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 โดยมีภาคเอกชน ภาคธุรกิจ นักลงทุน ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ในวันนี้ ซึ่งมีนางสิริรัตน์ วีรวิศาล ผู้อำนวยการสำนักการขนส่งสินค้า กรมการขนส่งทางบก เป็นประธานในการเปิดงาน
กรมการขนส่งทางบกเริ่มดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้และรูปแบบการบริหารจัดการสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาคมาตั้งแต่ปี 58 รวมจำนวนทั้งสิ้น 17 แห่ง แบ่งเป็นจังหวัดชายแดน 9 แห่ง ได้แก่ หนองคาย มุกดาหาร สระแก้ว ตราด สงขลา นราธิวาส กาญจนบุรี ตาก และ เชียงราย และจังหวัดภูมิภาคหลัก 8 แห่ง ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ปราจีนบุรี และสุราษฎร์ธานี
วัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นจุดเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งสินค้าทางถนน และทำหน้าที่เป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานสูง เชื่อมโยงฐานการผลิตและฐานการส่งออกที่สำคัญของประเทศ ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
โดยมีการให้บริการกิจกรรมที่มีความหลากหลาย เช่น ลานจอดรถบรรทุก เปลี่ยนถ่ายสินค้า ชานชาลาขนถ่ายสินค้า คลังสินค้า เครื่องมือและอุปกรณ์ยกขน พร้อมทั้งพื้นที่บริการสาธารณะ เช่น อาคารสำนักงาน โรงอาหาร สถานีบริการเชื้อเพลิง และพื้นที่เพื่อดำเนินกิจกรรมทางศุลกากร เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้จังหวัดชายแดนกลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อ (Hub) การขนส่งสินค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และเพื่อเป็นการรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดในส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการในส่วนของการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและก่อสร้างภายในปี 61 โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาคทั้ง 17 แห่ง แล้วเสร็จภายในปี 65
หลังการจัดสัมนาครั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมลงทุน เพื่อกำหนดแนวทางการลงทุนให้มีความน่าสนใจ มีความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน