พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งตั้งคณะทำงานภายใต้พ.ร.บ.ควบคุมยาง 2542 โดยมอบหมายให้ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยาง 2542 ซึ่งจะทำงานร่วมกับกรมวิชาการเกษตรในการตรวจสอบปริมาณยางในสต็อค การนำเข้าและส่งออกยาง หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของปริมาณยางในตลาดที่มีอยู่จริง ป้องกันปัญหาการบิดเบือนข่าว หรือ การกักตุนสินค้า ซึ่งเป็นการทุบราคายางในตลาดให้ปั่นป่วน นอกเหนือจากการใช้มาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางที่เป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาเมื่อวานนี้แล้ว
"เพื่อให้เรื่องนี้ชัดเจนขึ้น นอกจากมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางที่เป็นมติ ครม.ออกมาเมื่อวานนี้แล้ว ก็จะมีการใช้พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ. 2542 ซึ่งให้อำนาจรัฐมนตรีในการควบคุมการผลิต การตลาด โดยจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เป้าหมายตรวจสอบใบอนุญาตตั้งโรงงาน บัญชีการซื้อขายขายยาง บัญชีสต็อก บัญชีการนำเข้าส่งออกว่าตรงกับความเป็นจริงหรือไม่
ทั้งนี้ ผู้ค้ายางและผู้ประกอบการยางทุกรายจะต้องส่งตัวเลขเหล่านี้มาทุกวันที่ 8 ของเดือน ซึ่งล่าสุดตัวเลขของเดือน เม.ย.ผู้ค้ายางมี 2,160 ราย โรงทำยาง 551 ราย หากเราไม่ตรวจไม่รายงาน ผู้ค้าก็ส่งยางไม่ได้ เพราะต้องมีการออกใบผ่านด่านศุลกากรแล้วไปคิดเงิน CESS กับทาง กยท.ถ้ามีการตรวจสอบเราจะเห็นความผิดปกติ โดยล่าสุดปริมาณสต็อกของภาคเอกชนอยู่ที่ประมาณ 5 แสนกว่าตัน"รมว.เกษตรฯ กล่าว
นอกจากนี้ จะมีการเร่งเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น โดยเชิญ 8 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) มาหารือถึงแนวทางส่งเสริมการน้ำยางไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในประเทศรวมทั้งสิ้น 28,692.12 ตัน คาดว่าในปีต่อไปจะสามารถนำยางพาราไปใช้เพื่อทำถนน ปูพื้น หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามที่ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเพิ่มปริมาณการใช้ยาง และส่งเสริมการนำยางพาราไปใช้ให้เกิดประโยชน์ภายในประเทศให้มากที่สุด
อีกทั้ง ได้สั่งการให้ผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เดินทางไปอินโดนีเซียช่วงเสาร์อาทิตย์นี้เพื่อเจรจาระหว่าง 3 ประเทศผู้ผลิต คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งเป็น 3 ผู้ผลิตยางรายใหญ่ถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งตลาดซื้อขายจริงในภูมิภาค
ส่วนกรณีการหาตัวผู้ปล่อยข่าวทุบราคายางนั้น รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ทางผู้ว่า กยท.กกำลังเร่งหาข้อมูล แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ตัวคนปล่อยข่าวบิดเบือนทุบราคายางในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
"เราไม่ปล่อย ยังติดตามอยู่ แต่ยังพูดอะไรไม่ได้"รมว.เกษตรฯ กล่าว
ด้านนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่า กยท. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ราคายางอยู่ที่ระดับ 70 บาท แต่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือว่ารัฐบาลจีนปล่อยสต็อกยางจำนวน 1 แสนตัน และมีข่าวลือว่าคุณภาพยางของไทยไม่ดี ข่าวดังกล่าวกดราคายางร่วงลงมาอยู่ที่ 53 บาท..แต่วันนี้เริ่มขยับขึ้นมาแล้ว มาอยู่ที่ 58 บาท ส่วนที่ว่ายางอีสานคุณภาพไม่ดี บริษัทใหญ่ไม่รับซื้อก็ไม่เป็นความจริงและยังคงรับซื้อยางจากเกษตรอย่างต่อเนื่อง