นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เตรียมนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ในการประกอบกิจการประเภทอื่น เช่น การผลิตปิโตรเลียม การทำเหมืองแร่ และ โครงการพลังงานแทน เพื่อให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนว่าจำเป็นต้องใช้การออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาหรือไม่
ทั้งนี้ ข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาได้มีการเตรียม 4 แนวทาง ประกอบด้วย 1.การถอนสภาพ ส.ป.ก.ในพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งสามารถทำได้แต่เกษตกรจะเสียประโยชน์ 2. การแก้ไขกฏหมาย แต่คงต้องใช้เวลานาน 3. การใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ ส.ป.ก. มาตรา 19 และมาตรา 30 เพื่อออกระเบียบนำพื้นที่ ส.ป.ก.ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น แต่ยังติดเงื่อนไขที่สามารถใช้ประโยชน์ได้แค่โครงการพลังงานทดแทนประเภทกังหันลมเท่านั้น 4. ออกเป็นคำสั่ง คสช.ตามมาตรา 44
นายวิษณุ กล่าวว่า เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายในเรื่องนี้ไว้ 6 แนวทาง ประกอบด้วย 1.การกำหนดพื้นที่ต้องเป็นพื้นที่จำกัด ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับพื้นที่ที่จะปฏิรูปที่ดินอย่างแท้จริง 2.ต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับการทำการเกษตร 3.ต้องมีสัญญาที่เป็นพันธะผูกพันกับเกษตรและเอกชนมาก่อน 4.ต้องคำถึงผลประโยชน์สาธารณะที่เกษตรกรจะได้รับ 5.ผลประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับต้องผ่านกองทุนเกษตรกรเท่านั้น และ 6.ต้องคำนึงถึงผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการด้วย
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า การกำหนดพื้นที่ที่จะใช้ประโยชน์จะไม่ใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา แต่จะมีการกำหนดเป็นลายลักษณ์อักษรในรูปแบบกฏกระทรวงและต้องนำเสนอให้ประชุม ครม.พิจารณาเป็นรายกรณีไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ (มินิคาบิเนต) ช่วงเช้าที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีการหารือเรื่องของพลังงาน โดยรมว.พลังงาน ได้ชี้แจงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานและที่ประชุมมีมติในการแก้ไขปัญหา ซึ่งทั้งหมดต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง