นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังนาย Ralph L. (Skip) Boyce ประธานบริษัท โบอิ้ง เซาท์อีส เอเชีย มาเข้าพบว่า ทางโบอิ้งมาหารือเพื่อแสดงความสนใจลงทุนเรื่องการพัฒนาศูนย์กลางด้านการบิน ในส่วนที่เกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบทางการบิน รวมทั้งการลงทุนจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมนักบินเพื่อป้อนให้กับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ โดยพื้นที่ที่สนใจคือ บริเวณสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งการเข้ามาลงทุนของโบอิ้งในครั้งนี้จะไม่ทับซ้อนกับแอร์บัสที่แสดงความตั้งใจมาก่อนหน้านี้
นายสมคิด กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐฯ ในขณะนี้ถือว่าดีมาก โดยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ผ่านมา เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยได้นำคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียนมาประเทศไทย ซึ่งทุกคนรู้สึกตื่นเต้นที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเยือนสหรัฐอเมริกา จึงระบุว่าพร้อมจะรอต้อนรับคณะและหากมีโอกาสคงได้พบกันที่เมืองนิวยอร์ก และรู้สึกยินดีที่สหรัฐฯ น่าจะเป็นประเทศแรกที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งในการเดินทางเยือนสหรัฐครั้งนี้ทางคณะของนายกรัฐมนตรีจะได้นำคณะนักธุรกิจไทยไปพบปะกับนักธุรกิจของสหรัฐฯ ด้วย
ขณะที่นาย Ralph L. (Skip) Boyce ประธานบริษัท โบอิ้ง เซาท์อีส เอเชีย กล่าวว่า มองเห็นถึงโอกาสในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลไทยกำลังผลักดัน ทางโบอิ้งจึงพิจารณาที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จากที่ในปัจจุบันได้ลงทุนหลายประเทศในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว และมองว่าถ้าโบอิ้งไม่มาจะเหมือนการพลาดโอกาส จึงจะมีการตัดสินใจในเร็วๆนี้ สำหรับลูกค้ารายใหญ่ของโบอิ้งในปัจจุบัน ได้แก่ การบินไทย และหากสายการบินอื่นมีความสนใจทางโบอิ้งก็สนใจเหมือนกัน
พร้อมทั้งมองว่าในอีก 20 ปีทั่วโลก ธุรกิจการบินจะเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน จึงต้องมีทั้งกัปตันและลูกเรือให้เพียงพอกับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งต้องเกิดจากการร่วมมือกัน ขณะที่สนามบินอู่ตะเภาถือว่ามีประวัติที่ดีที่เกี่ยวข้องกับประเทศสหรัฐ ทางโบอิ้งจึงพร้อมที่จะเข้ามาแน่นอน