นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้เร่งแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินพื้นที่ราชพัสดุ ใน ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ในความครอบครองของกองทัพเรือ บนเนื้อที่ 12,487 ไร่ โดยปัจจุบันมีผู้บุกรุกอยู่ประมาณ 2,000 ราย เนื้อที่ 2,434 ไร่ แบ่งเป็น 4 แปลงใหญ่ ขณะนี้มีผู้บุกรุกในพื้นที่ได้ยื่นเรื่องขอเช่าที่ดินที่ราชพัสดุแปลงที่พิพาทแล้ว 487 ราย
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้แก้ปัญหาดังกล่าวโดยการจัดให้เช่าเป็นรายบุคคล และล่าสุดได้ให้ประชาชนที่บุกรุกเข้ามาทำสัญญาเช่าให้ชุมชนได้อยู่อาศัยในแปลงที่ 3 แล้วจำนวน 116 ราย พื้นที่ 50 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 332 ไร่ โดยคิดอัตราค่าเช่า 50 สตางค์ต่อตารางวา ส่วนในพื้นที่เหลือจะเร่งดำเนินการจัดทำสัญญาเช่าให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญการบุกรุกของประชาชนและทำให้ได้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยด้วย
"พื้นที่ราชพัสดุในแปลงที่ 3 ที่เร่งแก้ปัญหาก่อนนั้น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งคิดค่าเช่าต่ำมากที่ 50 สตางค์/ตารางวาต่อเดือน และพื้นที่เพื่อการเกษตร คิดค่าเช่าไร่ละ 20 บาท/ปี โดยทหารเรือดำเนินการจัดเก็บค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ในรูปแบบจัดประโยชน์แทนกรมธนารักษ์ โดยหลังจากนี้จะเร่งแก้ปัญหาผู้บุกรุกในแปลงที่ 1, 2 และ 3 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนแปลงที่ 4 เป็นพื้นที่ที่ทหารเรือใช้ประโยชน์อยู่ จึงไม่ต้องเข้าไปดำเนินการในส่วนนี้" นายพชร กล่าว
อย่างไรก็ตาม การทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุเพื่อยู่อาศัยนั้น กรมธนารักษ์และกองทัพเรือได้ขอให้สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งกำหนดให้จัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐ ซึ่งต้องจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในลักษณะแปลงรวมเป็นการจัดให้เช่าในรูปแบบของกลุ่มหรือสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ