พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในวันนี้กระทรวงพลังงานได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กับประเทศนอร์เวย์ จัดงานสัมมนาความร่วมมือด้านก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในธุรกิจ LNG และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการกำกับดุแลของภาครัฐ เนื่องจากประเทศนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีความสมบูรณ์ด้านทรัพยากรทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
การสัมมนาในวันนี้ นอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นด้านธุรกิจ LNG แล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ด้านการกำกับดูแลเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านปิโตรเลียม เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่ชัดเจนและรอบด้านในการนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากประเทศนอร์เวย์มีระบบการให้สิทธิและสำรวจปิโตรเลียมทั้งระบบสัมปทานและระบบแบ่งปันผลผลิต ซึ่งประเทศไทยได้มีการปรับปรุงให้มีระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) และสัญญาจ้างบริการ (SC) เพิ่มขึ้นมาใช้ร่วมกับระบบสัมปทานเดิม โดยปัจจุบันอยู่ในช่วงปรับปรุงและดำเนินงานด้านกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเตรียมเปิดประมูลแหล่งสิ้นสุดสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย 2 แหล่งใหญ่ คือ แหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ ที่คาดว่าจะเปิดให้สิทธิปิโตรเลียมรอบใหม่ได้ช่วงปลายปี 60
รมว.พลังงาน กล่าวว่า แม้ว่าในอนาคตจะมีความต้องการใช้พลังงานทดแทนจะเติบโตเร็ว แต่ความต้องการใช้ LNG ก็ยังต้องเพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่ความร่วมมือทางด้าน LNG ระหว่างนอร์เวย์จะมีการรับซื้อจากนอร์เวย์หรือไม่นั้น คงต้องพิจารณาในด้านต้นทุน เนื่องจากเป็นประเทศที่ห่างไกลจากไทยค่อนข้างมาก แต่หากราคาต้นทุนรับได้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไรก็ยินดีที่จะซื้อ LNG นอกจากนี้ ต้องดูว่าผู้ประกอบการในเอเชีย และอาเซียนสามารถรวมตัวกันเพื่อซื้อ LNG จากประเทศห่างไกลเพื่อลดต้นทุนได้หรือไม่
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานกำหนดแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan 2015) เพื่อบริหารจัดการทั้งด้านความต้องการและการจัดหา โดยในส่วนของ LNG จะมีความสำคัญสำหรับประเทศไทยในอนาคตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการนำเข้า รวมทั้งนโยบายด้านการเปิดให้มีผู้สนใจเข้ามาสู่ในระบบโครงข่ายด้านก๊าซมากขึ้น ในการเตรียมความพร้อมแนวทางการแข่งขันเสรีกิจการก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนในที่สุด