(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.96/97 ตลาดรอถ้อยแถลงประธานเฟด-ประธาน ECB มองกรอบวันนี้ 33.95-34.05

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 27, 2017 11:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.96/97 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ 33.97/98 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางวันนี้น่าจะค่อยๆกระเตื้องขึ้น สำหรับค่าเงินบาท โดยตลาดยังจับตาถ้อยแถลงของนางเยนเลน ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ และนายนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.95 - 34.05 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.9800 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (26 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.29288% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (26 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.46056%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.94/96 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.68/70 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1180/1185 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1178/1180 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.9480 บาท/
ดอลลาร์
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมเสวนา "20 ปีวิกฤตต้มยำกุ้ง :
อดีตสู่อนาคต" หวังว่าประเทศไทยคงจะไม่เจอปัญหาเหมือนวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้แก้ไขไป
พอสมควร และปัจจุบันมีเงินทุนสำรองเพียงพอ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล นโยบายค่าเงินบาทมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและสถาบันการเงินมี
ความเข้มแข็งมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไทยก็ยังมีจุดอ่อนสำคัญที่จะต้องระวังคือ 1.ความชะล่าใจ ความประมาท ต้องแก้ไขด้วยความรอบคอบ มากขึ้น และ 2.การทำอะไรตามอำเภอใจ ซึ่งต้องแก้ไขด้วยความมีเหตุผลมากขึ้น

ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ระบุว่า เศรษฐกิจไทยไม่มีสัญญาณฟองสบู่ที่จะเกิดวิกฤต แต่ที่น่ากังวลคือขีด ความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโต โดยปกติก่อนที่ฟองสบู่จะแตก จะต้องมีการเติบโตก่อน แต่ ประเทศที่ไม่มีการเติบโต ก็ไม่มีความเสี่ยง เราอาจจะอยู่ในภาวะที่ไม่มีฟองสบู่ เพราะเราไม่โต นี่คือสิ่งที่น่ากังวลมากที่สุด

  • รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าภาพรวมกำลังซื้อของประชาชนไม่ได้แย่ลง เริ่มเห็น
สัญญาณการฟื้นตัวของการจับจ่ายใช้สอยตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยกำลังซื้อดีขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรหลักกระเตื้องขึ้น ภาคท่อง
เที่ยวดีต่อเนื่อง และรายได้จากราคาสินค้าเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น แต่ภาคลงทุนเอกชนยังชะลอตัวและส่วนใหญ่มีกำลังผลิตเพียง 60%
ปัจจัยหลักเพราะรองบประมาณการลงทุนจากภาครัฐและนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ยังไม่เกิดขึ้นได้ตามเป้า
หมายที่รัฐกำหนด
  • คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ออกรายงานภาวะเศรษฐกิจในวันนี้ โดย
ระบุว่า เศรษฐกิจของ EU มีการขยายตัวที่ระดับ 0.6% ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศสมาชิกส่วนใหญ่สามารถ
รักษาการขยายตัวเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน แม้เผชิญกับปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอก EU เช่น ปัจจัยการแยกตัวของอังกฤษออก
จาก EU (Brexit), ภัยคุกคามของการก่อการร้าย และวิกฤตการณ์การอพยพของผู้ลี้ภัย

นอกจากนี้ EU ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะมีการเติบโต 1.9% ทั้งในปีนี้ และปีหน้า ขณะที่เข้าสู่การฟื้นตัวเป็นปีที่ 5

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาด
ใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ร่วงลง 1.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากลดลง 0.9% ในเดือนเม.ย.
  • นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนายวิลเลียมส์ ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ต่าง
ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ เพื่อหนุนการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจสหรัฐ

ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อทำให้นโยบายการเงิน กลับสู่ภาวะปกตินั้น จะช่วยให้สามารถรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจในอัตราที่จะดำเนินไปอย่างยั่งยืนในระยะยาว และถ้ารอนาน เกินไป เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ และปัญหาอื่นๆ และอาจถึงขั้นที่ทำให้เฟดอยู่ในสภาพที่ ต้องรีบปรับนโยบายเพื่อชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ขณะที่นายดัดลีย์ กล่าวว่า การชะลอตัวลงของภาคสินเชื่อ ประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลง ล้วนเป็นปัจจัยที่จะส่งเสริมให้เฟดดำเนินนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น

  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.)
ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กและซานฟรานซิสโกที่ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดิน
หน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1191 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1199 ดอลลาร์ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.70 เยน จากระดับ 111.25 เยน

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการฟื้นตัว
ของตลาดหุ้นสหรัฐ ได้กดดันให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย.โดยเอสแอนด์พี/เคส-ชิ
ลเลอร์ และดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.โดยเฟดสาขาริชมอนด์
  • นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการ
ประชุม "Global Economic Issues" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า นางเย
ลเลนจะเน้นย้ำถึงจุดยืนของเฟดที่ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป หรือการเริ่มปรับลดงบดุลของเฟดนั้น จะพิจารณาจากข้อมูล
เศรษฐกิจที่เฟดได้รับ
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน

มิ.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ