นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า กกพ.เตรียมเสนอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 ในส่วนของหน่วยงานราชการ ที่ยังคงเหลือโควตาอยู่ 47.48 เมกะวัตต์ (MW) หลังการจับสลากเพื่อคัดเลือกผู้เป็นเจ้าของโครงการเมื่อวานนี้ สำหรับหน่วยงานราชการได้รับคัดเลือกเพียง 11 โครงการ คิดเป็นปริมาณเสนอขายไฟฟ้า รวม 52.52 เมกะวัตต์ ต่ำกว่าเป้าหมายที่จะรับซื้อ 100 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ หากจะเปิดรับซื้อโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการเพิ่มเติม ในส่วนขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ก็จะยังคงเป็นหน่วยงานราชการรายเดียวที่สามารถดำเนินการ เพราะมีหน่วยงานในสังกัดเกือบทุกจังหวัด และเป็นหน่วยงานที่พร้อมที่สุดเพราะวัตถุประสงค์สามารถผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้าได้
"การจับสลากวานนี้มีความเป็นธรรมเพราะจับพร้อมกันทั้งสหกรณ์การเกษตรและหน่วยงานราชการ แต่เนื่องจากในส่วน 47.48 เมกะวัตต์ ขององค์การทหารผ่านศึกเสนอมาในพื้นที่สายส่งเดียวกับสหกรณ์ฯ แต่สหกรณ์ดวงดีกว่าจึงได้สายส่งในพื้นที่ดังกล่าว"นายวีระพล กล่าว
สำหรับการจับสลากเพื่อคัดเลือกเจ้าของโครงการโซลาร์ฟาร์ม สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 พบว่ามีผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีสิทธิยื่นคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าอย่างไม่เป็นทางการทั้งสิ้นจำนวน 38 ราย หรือคิดเป็นปริมาณการเสนอขายไฟฟ้าที่รวมทุกพื้น รวม 171.52 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายรวมไม่เกิน 219 เมกะวัตต์ โดยในส่วนนี้เป็นหน่วยงานราชการ 11 ราย คิดเป็นปริมาณเสนอขายไฟฟ้า รวม 52.52 เมกะวัตต์ ต่ำกว่าโควตาที่ได้รับ 100 เมกะวัตต์ และโครงการจากสหกรณ์ภาคการเกษตร จำนวน 27 ราย คิดเป็นปริมาณเสนอขายไฟฟ้า รวม 119.00 เมกะวัตต์ ซึ่งเท่ากับโควตาที่ได้รับ 119 เมกะวัตต์