นายสมชาย แสงรัตนมณีเดช รองอธิบดีกรมสรรพากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ตามที่ได้มีพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดแจ้งเข้าสู่ระบบบัญชีเดียวตามพระราชกำหนดฯ ได้รับยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมินหรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากร ซึ่งจะไม่ถูกตรวจสอบย้อนหลัง
โดยบริษัทฯ ที่ได้รับการยกเว้นดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการยื่นรายการและเสียภาษีสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่มีวันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลาในการยื่นรายการในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป เป็นหนึ่งในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามกฎหมายด้วยนั้น
สำหรับบริษัทที่ได้จดแจ้งระบบบัญชีเดียว ซึ่งได้รับสิทธิยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมินหรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากรตามพระราชกำหนดฯ ซึ่งจะไม่ถูกตรวจสอบย้อนหลังนั้น หากบริษัทใดยังไม่ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ของรอบระยะเวลาบัญชีปี 2558 ซึ่งขณะนี้ได้เกินกำหนดเวลาการยื่นแบบตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว
กรมสรรพากรขอแจ้งให้รีบดำเนินการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2558 ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2560 นี้ หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว เจ้าพนักงานประเมินตรวจพบว่า บริษัทใดยังไม่ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2558 อธิบดีกรมสรรพากรจะดำเนินการเพิกถอนการได้รับยกเว้นที่จะไม่ถูกตรวจสอบย้อนหลังตามพระราชกำหนดฯ ฉบับดังกล่าว และเจ้าพนักงานประเมินจะมีอำนาจตรวจสอบ ไต่สวน ประเมินหรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความรับผิดอาญาตามประมวลรัษฎากร โดยสามารถดำเนินการดังกล่าวย้อนหลังได้สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปี 2559 หรือมูลค่าฐานภาษี รายรับ การกระทำตราสาร และความผิดทางอาญาที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 ได้ต่อไป และการแจ้งข้างต้นนี้มิใช่เป็นการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2558 ให้แก่บริษัทแต่อย่างใด