นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้อาจสูงกว่าเป้าไว้ที่ 3.5% ซึ่งคงต้องดูเรื่องการส่งออกว่าขยายตัวต่อเนื่องหรือไม่ ขณะที่การลงทุนในประเทศมีการขยายตัวมากขึ้น
"ช่วงครึ่งหลังปีนี้น่าจะ take off สูงกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนจะขยายตัวแตะ 5% หรือไม่คงต้องรอดูภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย แต่คิดว่ามีโอกาส หลังจากครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 3.5%" นายปรเมธี กล่าว
สำหรับการหดตัวของการส่งออกภาคยานยนต์นั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงสั้นจากการลดลงของการส่งออกตลาดตะวันออกกลางที่มีรายได้จากการส่งออกน้ำมันลดลง ทำให้รัฐบาลของแต่ลประเทศต้องดำเนินนโยบายรัดเข็มขัด ส่วนตลาดออสเตรเลีย ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในไตรมาสแรกและเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสสอง
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเป้าหมายการผลิตปีนี้ไว้ที่ 2 ล้านคันเท่าเดิม เนื่องจากยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นทดแทนยอดส่งออกที่ลดลง
นายปรเมธี กล่าวว่า ในระยะสั้นเศรษฐกิจโลกเริ่มขยายตัวดีขึ้นสะท้อนได้จากการขยายตัวของการส่งออกของไทยที่ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และการขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน โครงการพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การปรับปรุงกฎระเบียบเพิ่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จะมีส่วนช่วยสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผลจากการปฏิบัติของแผนฯ 11 ที่ประสบปัญหาวิกฤตทางการเมืองและมหาอุทกภัยนั้น เริ่มมาฟื้นตัวในช่วงปลายแผนฯ จากการขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐ ซึ่งมีหลายปัจจัยที่จะต้องเร่งพัฒนาต่อไป ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองยังเป็นไปตามโรดแมพของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นและไม่กังวลในเรื่องนี้