(เพิ่มเติม) สภาพัฒน์ จัดประชุมประจำปี 60 "ขับเคลื่อนแผนฯ 12 สู่อนาคตประเทศ"กำหนด 6 ประเด็นเร่งด่วน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 28, 2017 12:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า สภาพัฒน์กำหนดจัดการประชุมประจำปี 2560 เรื่อง" ขับเคลื่อนแผนฯ 12 สู่อนาคตประเทศไทย" ในวันที่ 3 ก.ค. 60 เพื่อนำเสนอประเด็นการพัฒนาหลักภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (ปี 60-64) และแนวทาง/กลไกการขับเคลื่อนสู่ระดับปฎิบัติในมิติต่างๆ เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งของประเทศในรช่วงระยะ 5 ปีแรกของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

นอกจากนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคีการพัฒนาจากทุกภาคส่วนของสังคมได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางและกลไกในการขับเคลื่อนแผนฯ 12 ในมิติต่างๆ ไปสู่การปฎิบัติและสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับหน่วยงานรับผิดชอบทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสาธารณชนถึงความเชื่อมโยงของกรอบแนวคิดต่างๆของการพัฒนาประแทศไทย และกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาในบริบทของการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน อาทิ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนน (SDCs) และ Thailand 4.0 เพื่อให้การขับเคลื่อนในระดับการปฎิบัติเกิดการบูรณาการที่สังฤทธิ์ผล และมีเป้าหมายตัวชี้วัดที่สอดคล้องกัน

ทั้งนี้ ในการประชุมประจำปี 2560 สศช.ได้กำหนด 6 ประเด็นการขับเคลื่อนการพัฒนาที่มีความสำคัญเร่งด่วนและมีลำดับความสำคัญสูงในแผนฯ 12 สู่การปฎิบัติ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ศักยภาพคนไทยเพื่ออนาคตประเทศไทย กลุ่มที่ 2 นวัตกรรมนำสู่อนาคตประเทศไทย กลุ่มที่ 3 เกษตรกรยุคใหม่เพื่ออนาคตประเทศไทย กลุ่มที่ 4 โครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์เพื่ออนาคตประเทศไทย กลุ่มที่ 5 ภาครัฐดิจิทัลเพื่ออนาคตประเทศไทย และ กลุ่มที่ 6 การพัฒนาพื้นที่ภาคและเมืองสู่อนาคตประเทศไทย

นายปรเมธี กล่าวว่า จากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดสิ่งที่ต้องเผชิญในอนาคต ได้แก่ เทคโนโลยีจะพลิกโฉมในทุกด้าน ทำให้เกิดเศรษฐกิจและสังคมโลกโฉมใหม่ การดำเนินชีวิตและคุณภาพชีวิตจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทรัพยากรมีจำกัด กฎเกณฑ์การดูแลสิ่งแวดล้อมเข้มงวด และมี SDGs เป็นเป้าหมายที่ต้องยึดเป็นแนวทางปฎิบัติให้บรรลุผล โลกมีความเสี่ยงจากภัยรูปแบบใหม่ที่หลากหลายภายใต้โลกไร้พรมแดน มีความเสี่ยงเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร น้ำ และพลังงาน ที่เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงผันผวน เกิดการหลั่งไหลและเคลื่อนย้ายของสินค้า บริการ คน ข้อมูลข่าวสารอย่างเสรี การแข่งขันรุนแรงขึ้น

ขณะที่สังคมไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์ในปี 64 สังคมสูงวัยสุดยอดปี 79 ประชากรไทยจะลดลงตั้งแต่ปี 70 กลุ่มเด็กและวัยแรงงานลดลง เป็นความเสี่ยงด้านการคลัง การออม ศักยภาพทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตในสังคม ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยรัฐจะเป็นผู้อำนวยความสะดวก

สำหรับแนวโน้มเด็กเกิดใหม่ในช่วงแผนฯ 12 ลดลงจากที่ผ่านมาที่มีปริมาณปีละล้านคนมาอยู่ที่ปีละ 7 แสนคน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปัญหาแรงงาน โดย สศช.ตั้งเป้าที่จะให้มีอัตราเด็กเกิดใหม่อยู่ที่ 1.6 (ต่อผู้หญิง 1 คน) เท่าเดิม จากแนวโน้มที่จะลดลงมาอยู่ที่ 1.3 ทั้งนี้ สศช.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนประชากร 20 ปี คาดว่าจะเสร็จเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ราวปลายเดือน ก.ค.นี้

ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาประเทศไทยสู่อนาคตอย่างมีทิศทาง จำเป็นจะต้องแก้ปัญหาและกำจัดจุดอ่อนของประเทศอย่างจริงจัง แก้ปัญหาพื้นฐานสำคัญให้ตรงจุด และวางรากฐานการพัฒนาประเทศที่ต้องทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

นายปรเมธี กล่าวว่า แผนฯ 12 เป็นช่วง 5 ปีแรกของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีจากนี้ ซึ่ง สศช.ตั้งเป้าที่จะทำให้รายได้ของประชาชนเพิ่มขึ้น โดยในช่วงแรกของแผนฯ ภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างมั่นคงมากขึ้นกว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ประกอบกับแผนการลงทุนภาครัฐ

ส่วนการจัดการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้แล้ว 1,800-1,900 คน จากเป้าหมายที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมสัมมนาทั้งสิ้นราว 2,500 คน ซึ่งหากผู้สนใจไม่สามารถเข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ก็ติดตามได้จากการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ NBT, สถานีวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ และโซเชียลมีเดียได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ