นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการหอชมเมือง คาดว่าจะสามารถทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.3275 กับมูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อก่อสร้างโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร มูลค่า 4.62 พันล้านบาท ได้ภายใน 3 เดือนหลังจากนี้ และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างโครงการราว 3 ปี จึงจะแล้วเสร็จ ระยะเวลาการเช่า 30 ปี
ส่วนค่าเช่าที่เฉลี่ยปีละ 4 แสนบาท และจะมีการปรับเพิ่ม 15% ทุก ๆ 5 ปี ซึ่งเป็นอัตราที่กรมธนารักษ์ใช้ในการคิดค่าเช่าที่ราชพัสดุทั่วไปอยู่แล้ว โดยพื้นที่ดังกล่าวใช้อัตราค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์
“กระบวนการทำงาน และขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ หลังจากนี้จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์พ.ร.บ.ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ซึ่งจะมีคณะทำงานซึ่งมาจากผู้ทรงคุณวุฒิหลายแวดวงเข้ามาร่วมพิจารณาในขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด ถือเป็นการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบ โดยกรรมสิทธิ์ของโครงการจะตกเป็นของภาครัฐ ส่วนแนวทางการบริหารจัดการเป็นของเอกชน" นายพชร กล่าว
นายพชร กล่าวอีกว่า มีการประเมินว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจกว่า 4.68 หมื่นล้านบาท ในระยะเวลาเช่า 30 ปี เนื่องจากจะทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น จำนวนการพักในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยาวขึ้นอย่างน้อย 1 วัน รวมทั้งยังช่วยทำให้เกิดการใช้จ่ายซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้นด้วย ขณะที่ผลตอบแทนทางการเงินนั้น คาดว่าจะติดลบ 769 ล้านบาท ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการเชิงสังคม ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ที่หวังกำไรแต่อย่างใด