นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กรมศุลกากรเตรียมขายทอดตลาดรถที่มาจากการยึดจากแหล่งต่างๆ โดยมีการนำออกประมูลกว่า 300 รายการนั้น ในเบื้องต้นกรมศุลกากรได้ส่งรายละเอียดรถให้กรมการขนส่งทางบกตรวจสอบว่าเป็นรถที่สามารถดำเนินการจดทะเบียนได้หรือไม่ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ตรวจสอบและแจ้งกลับถึงหลักเกณฑ์การจดทะเบียนรถอย่างชัดเจนแล้ว หากรถประมูลขายตลาดดังกล่าวเข้าหลักเกณฑ์เป็นรถนำเข้าทั้งคันจึงจะสามารถดำเนินการจดทะเบียนได้ แต่หากเป็นรถที่ประกอบจากชิ้นส่วนของรถที่ใช้แล้วที่นำเข้ามาจากต่างประเทศจะไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนรถได้ ซึ่งเป็นไปตามที่ได้มีประกาศบังคับใช้กฎกระทรวงงดรับ จดทะเบียนรถที่ประกอบจากชิ้นส่วนของรถที่ใช้แล้วที่นำมาจากต่างประเทศ พ.ศ.2556 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป โดยกฎกระทรวงดังกล่าวครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง ส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
"กรณีรถประมูลขายทอดตลาดของกรมศุลกากร หากมีหลักฐานยืนยันครบถ้วนถูกต้องตาม หลักเกณฑ์เป็นรถนำเข้าทั้งคัน กรมการขนส่งทางบกจะจดทะเบียนให้ทันที" นายสนิท กล่าว
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงกฎกระทรวงงดรับจดทะเบียนรถที่ประกอบจากชิ้นส่วนของรถที่ใช้แล้วที่นำมาจากต่างประเทศ พ.ศ.2556 เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรในประเทศโดยวิธีการนำเข้าชิ้นส่วนของรถที่ใช้แล้วมาจากต่างประเทศมาประกอบและจดทะเบียนเป็นรถใหม่ แทนการแจ้งนำเข้ารถทั้งคัน ซึ่งทำให้ภาครัฐเสียประโยชน์และถือเป็นรถผิดกฎหมาย