นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ระบุว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เห็นด้วยและให้การสนับสนุนการออก พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ที่เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งเป็นการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เพียงแต่มองว่า พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว มีบทลงโทษที่รุนแรงเกินไป อีกทั้งยังไม่มีเวลาให้นายจ้างและแรงงานได้ปรับตัว ซึ่งส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกโดยเฉพาะกับธุรกิจรายย่อยที่มีการจ้างแรงงานต่างด้าว เช่น เกษตร ก่อสร้าง ร้านค้า ร้านอาหารให้ต้องเลิกจ้างแรงงานเหล่านี้ไปเนื่องจากมีบทลงโทษที่รุนแรง ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวไว้อย่างถูกกฎหมายแล้ว
อย่างไรก็ดี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เตรียมจะออกมาตรา 44 เพื่อขยายเวลาการบังคับใช้ข้อกำหนดบางประการใน พ.ร.ก.ดังกล่าวออกไปอีก 120 วัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
"ทาง กกร.ให้การสนับสนุน พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวฉบับใหม่นี้ และเห็นด้วยที่จะออกมาเป็นกฎหมายเพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว แต่เรามองว่าบทลงโทษแรงเกินไป และการที่ประกาศใช้บังคับทันทีนั้น จะทำให้ปรับตัวกันไม่ทัน ซึ่ง กกร.ได้เสนอแนะว่าขอให้ทิ้งช่วงเวลาหน่อย เพื่อให้ได้ปรับตัว และให้แรงงานต่างด้าวที่มาทำงานอยู่แล้วมาขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องได้ทัน แต่เราไม่สนับสนุนแรงงานใหม่ที่จะเข้ามาขึ้นทะเบียนเพิ่ม" นายพจน์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ในส่วนของกฎหมายลูกที่จะออกตามมาจากนี้อีก 39 ฉบับนั้น อยากให้ทางกระทรวงแรงงานเชิญ กกร.ในฐานะที่เป็นภาคเอกชนไปร่วมแสดงข้อคิดเห็นด้วยว่าในแง่การปฏิบัติแล้วจะมีปัญหาหรืออุปสรรคอย่างไร