นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.98/34.00 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 33.96 บาท/ดอลลาร์ ตลาดยังรอปัจจัยใหม่เข้ามา
"บาทอ่อนค่าจากช่วงเช้า ระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ปริมาณการซื้อขายก็มีไม่มาก" นัก
บริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.90-34.05 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนช่วงเย็นอยู่ที่ 112.94/113.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.26 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1376/1385 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1414 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,579.41 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด, +0.30% มูลค่าการซื้อขาย 29,995.55 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 402.08 ล้านบาท(SET+MAI)
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ชี้สภาพเศรษฐกิจไทยขณะนี้มาไกลจากภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อปี 40 หรือที่เรียก
ว่า"วิกฤตต้มยำกุ้ง"ค่อนข้างมากแล้ว และเชื่อว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้จะไม่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงเหมือนเช่นเดิมแน่นอน เนื่อง
จากสภาพปัจจุบันฐานะด้านต่างประเทศของไทยมีความเข้มแข็งมากขึ้น
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนมิ.ย.60 ลดลง 0.05% จากแนวโน้มราคาผักสดที่เริ่มสูงขึ้น
เนื่องจากผักสดเสียหายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอลงตามภาวะตลาดโลก จากผล
ของความไม่แน่นอนในปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียและลิเบีย รวมทั้งความขัดแย้งทางการเมืองในกลุ่มตะวันออกกลาง ทำให้
ยังคงมีอุปทานส่วนเกินในตลาด
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 60 ลดลงอยู่ระหว่าง 0.7-1.7% จากเดิมคาด 1.5-2.2% เพื่อ ให้สะท้อนภาวะเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง 60
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาเป็นบวกอีกครั้งในช่วง
ครึ่งปีหลัง โดยผลของฐานสูงจากภัยแล้งจะทยอยลดลงในเดือนก.ค.เป็นต้นไป ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นในช่วง
ครึ่งปีหลังเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 53 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และค่าเงินบาทก็มีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปที่ 35.00-35.50 บาทต่อดอลลาร์
สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2017 ส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าปรับสูงขึ้นได้ในระยะต่อไป โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 1.0%
YOY
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน
ก.ค.60 ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ก.ย.60) อยู่ที่ 100.1 อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) (ช่วงค่าดัชนี
ระหว่าง 0-200) หรือปรับตัวลดลง 1.62% จากเดือนที่ผ่านมาที่ 101.66
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนมิ.ย.60 ปรับตัวลดลงจากเดือน
ก่อนที่ระดับ 52.3 มาอยู่ที่ระดับ 50.7 ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคที่มิใช่อุตสาหกรรมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบ
การในภาคการค้า ซึ่งประเมินว่าภาวะทางธุรกิจแย่ลงจากเดือนก่อน ตามยอดขายและผลประกอบการที่ลดลง สะท้อนการใช้จ่ายใน
ประเทศที่ยังฟื้นตัวไม่เข้มแข็ง สอดคล้องกับความกังวลของผู้ประกอบการที่เห็นว่าความต้องการจากตลาดในประเทศต่ำ ยังเป็นข้อ
จำกัดอันดับ 1 ในการดำเนินธุรกิจ
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ
33.80-34.10 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 33.98 ต่อดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดจับตาท่าทีของคณะกรรมการนโยบาย
การเงิน (กนง.)ที่มีต่อสัญญาณล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในยุโรปซึ่งอาจส่งผลต่อค่าเงินบาทได้
- ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ
57.4 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 74 เดือน จากระดับ 57.0 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีที่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัว
- -ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอังกฤษ ซึ่งจัดทำโดยมาร์กิต/ซีไอพีเอส อยู่ที่ระดับ 54.3 ในเดือน
มิ.ย. ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยลดลงจากระดับ 56.3 เมื่อเดือนพ.ค.
- ธนาคารกลางจีนได้ระงับการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการดำเนินงานทางตลาดเงิน Open Market
Operations (OMO) อย่างต่อเนื่อง 7 วันทำการ เนื่องจากสภาพคล่องที่ค่อนข้างสูงในระบบการเงิน
- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน คาดหวังว่า การประชุมกลุ่ม G20 จะช่วยเดินหน้าความร่วมมือที่เอื้อผลประโยชน์ต่อ
ทุกฝ่าย สนับสนุนการค้าเสรีแบบพหุภาคี และความเป็นผู้นำในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานมี
กำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย