นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.00 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.98/34.00 บาท/ดอลลาร์
"ตลาดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยอดการสั่งซื้อสินค้าโรงงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ"นัก
บริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.97-34.05 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.0175 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (3 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.30824% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (3 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.46564%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.26 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้อยู่ที่ 112.94/113.00 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1366/1370 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้อยู่ที่ 1.1376/1385 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.9670 บาท/
ดอลลาร์
- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีเงินไหลเข้าซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะยาว
124,000 ล้านบาท มากกว่าครึ่งปี 2559 ที่มีเงินไหลเข้าซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะยาว 46,500 ล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่าเงิน
บาทไทยแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุมาจากต้นทุนทางการเงินระหว่างเงินดอลลาร์สหรัฐฯกับค่าเงินบาทถูกกว่าในอดีตมาก
และอัตราผลตอบแทนจากตราสารหนี้ระยะยาว(yield)ของไทยอยู่ในระดับสูงและยังได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เตรียมออกมาตรการควบคุมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้
ครัวเรือนและแก้ปัญหาคนรุ่นใหม่ที่จบการศึกษาและเริ่มเข้าทำงานสร้างหนี้เกินตัว โดยเกณฑ์ใหม่เริ่มใช้เดือน ส.ค.นี้
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนทรงตัวที่ระดับ 9.3% ใน
เดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี และเมื่อเทียบรายปี อัตราการว่างงานในยูโรโซนลดลง 0.9% ใน
เดือนพ.ค.
- บริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)
สำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.0 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 52.7 ในเดือนพ.ค. แต่ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่า
ระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐทรงตัวในเดือนพ.ค. โดยอยู่ที่ระดับ 1.23
ล้านล้านดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนเม.ย.
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ด้วย
แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
สหรัฐ ที่ระดับ 1.1360 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1410 ดอลลาร์ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.39 เยน
จากระดับ 112.42 เยน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดัน
จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ
ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค., รายงานการประชุมประจำ
เดือนมิ.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก
ADP, ดุลการค้าเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.
โดยมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า
ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 174,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่า อัตราว่าง
งานเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.3%