นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของการส่งออกในปี 60 มาที่ 3.5-4.5% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 2.0-3.5% เนื่องจากภาวะการส่งออกในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปีนี้ขยายตัวได้ดี และน่าจะสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้
"การส่งออกทั้งปี 60 มีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าที่คาดและอาจเข้าใกล้เป้าหมายที่ 5% ของกระทรวงพาณิชย์ หลังจากในช่วง 5 เดือนแรกการส่งออกขยายตัวได้ดี"กกร.ระบุ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้การส่งออกอาจจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากแรงหนุนด้านราคาที่น่าจะลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินบาท นอกจากนี้คงต้องติดตามมาตรการทางการค้าต่อประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ในระยะต่อไปด้วย
ขณะที่การใช้จ่ายในประเทศยังอาจเผชิญความท้าทายจากราคาสินค้าเกษตรหลายรายการที่เริ่มลดลง และการเดินหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องใช้เวลา กกร.จึงยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 60 ไว้ที่ 3.5-4.0%
ส่วนอัตราเงินเฟ้อนั้น กกร.ปรับลดประมาณการมาที่ 0.5-1.5% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 1.0-2.0% หลังอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และอาจจะไม่เร่งขึ้นมากในช่วงครึ่งปีหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ขาดปัจจัยสนับสนุน
สำหรับภาพรวมตลาดการเงินโลกยังมีแนวโน้มผันผวนจากหลายปัจจัย แม้ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ พร้อมๆ กับการเริ่มกระบวนการปรับลดงบดุลลงก่อนสิ้นปี ขณะเดียวกันธนาคารกลางอื่นๆ หลายแห่งเริ่มส่งสัญญาณที่อาจจะลดการผ่อนคลายทางการเงินหากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนยังคงมีความผันผวน
กกร.ยังระบุถึงกรณีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ว่า กกร.รับทราบและเห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาแรงงานทาสของภาครัฐ โดย กกร.เห็นว่าต้องมีการจัดการอย่างจริงจัง และเข้าใจว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน กำลังเสนอแนวแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา