นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.08 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเช้าที่ระดับ 34.03 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.01-34.08 บาท/ดอลลาร์ เป็นผลจาก ปัจจัยในประเทศกรณีล้มดีลขายหุ้นในธุรกิจประกันชีวิตของธนาคารไทยพาณิชย์ให้กับต่างประเทศ ทำให้เม็ดเงินจากต่างประเทศที่คาด ว่าจะไหลเข้ามาต้องเลื่อนออกไป นอกจากนี้ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่หอการค้าไทยประกาศออกมาลดลงส่งผลทาง จิตวิทยา
"บาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่ามากกว่าค่าเงินภูมิภาค เนื่องจากมีปัจจัยลบในประเทศ แต่เป็นผลช่วงสั้นๆ" นักบริหาร
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.00-34.10 บาท/ดอลลาร์
"ทิศทางบาทวันพรุ่งนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอตัวเลขสำคัญ คือการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ คืนวันพรุ่ง นี้" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 113.39 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.05 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1365 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1339 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,569.64 จุด ลดลง 5.38 จุด, -0.34% มูลค่าการซื้อขาย 47,609.45 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,623.88 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายสมคิด จาตรุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีและมีความแข็งแกร่ง
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือน มิ.
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 63.3 ลดลงจาก 64.3 ในเดือน พ.ค.60
- สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมปรับประมาณการ GDP ปีนี้เพิ่มขึ้น หลังจากปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 60 เป็นขยายตัว 3.4%
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมปรับแผนการดำเนินงานเพื่อชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป
- คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เห็นชอบแนวทางการพัฒนาท่าเรือน้ำ
- ธนาคารกลางจีนได้ระงับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือพันธบัตรของทางการ (Open market operation หรือ OMO)
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 ร่วมมือกันลดภาวะไร้ดุลยภาพทาง
เศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจทั่วโลกให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น