นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เตรียมจะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุม Hong Kong Summit - Regional Cooperation between Hong Kong and East Asia (Hong Kong Summit) ในวันที่ 11 ก.ค.60 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งการประชุม Hong Kong Summit เป็นงานประชุมใหญ่ที่สำคัญและเป็นครั้งแรกของนางแครี แลม ผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง หลังจากเข้ารับตำแหน่งใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ก.ค.60 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและการสร้างพลวัตใหม่สำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และแสดงบทบาทนำของฮ่องกงในการเป็นประตูการค้าและการลงทุนสู่จีน
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ และภาคเอกชนจากฮ่องกงและประเทศต่างๆ ในเอเชียเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจากกัมพูชา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และวียดนาม เป็นต้น
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุม Hong Kong Summit ครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีของไทยในการแสดงบทบาทผู้นำการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนกับจีนและฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง และเป็นการต่อยอดการกระชับความสัมพันธ์จากการเยือนฮ่องกงของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และการจัดสัมมนาใหญ่กับฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างไทยกับนโยบาย One Belt One Road ของจีน และการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ของไทย รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมโยงทางนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยและฮ่องกง กล่าวคือ การพัฒนา Smart City และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ SMEs ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมของฮ่องกงมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0
นางอภิรดี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ของไทยได้รับเชิญจากประธานสภาหอการค้าจีน (Chinese General Chamber of Commerce: CGCC) ของฮ่องกง ให้ขึ้นกล่าวปาฐกถาและร่วมเสวนาหัวข้อ "การค้าเสรีและความร่วมมือในภูมิภาค" (Free Trade and Regional Collaboration) ร่วมกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจากกัมพูชา สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมทั้งประธานกองทุนเส้นทางสายไหม โดยกระทรวงพาณิชย์ของไทยจะร่วมอภิปรายใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ฮ่องกง 2) บทบาทของไทยกับฮ่องกงในการร่วมกันส่งเสริมยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีน และ 3) แนวทางการกระชับความร่วมมือระหว่างไทยกับฮ่องกงในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายสามารถพัฒนาร่วมกัน เช่น การพัฒนา Smart City และ SMEs
ทั้งนี้ ด้านการค้าในปี 2559 ฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 9 ของไทย เป็นประตูสู่จีนแผ่นดินใหญ่ และมีมูลค่าการค้ารวมระหว่างกันมูลค่า 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตลดลง 2.5% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปฮ่องกง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าว ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง สินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากฮ่องกง ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องประดับอัญมณี และผ้าผืน
ด้านการลงทุน ปี 2559 ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เป็นอันดับที่ 7 จำนวน 32 โครงการคิดเป็นมูลค่า 8.6 พันล้านบาท ลดลง 68.9% จากปี 2558 ขณะที่ด้านการท่องเที่ยว ในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวฮ่องกงเดินทางมาไทย 7.5 แสนคน เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2558 และมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปฮ่องกง 5.9 แสนคน เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2558 และด้านแรงงาน ปี 2559 มีแรงงานไทยเข้าไปทำงานในฮ่องกงประมาณ 2,000 คน ส่วนมากประกอบอาชีพผู้ช่วยแม่บ้าน พนักงานบริการ และผู้ประกอบอาหาร