นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุในท่าอากาศยานสุวรรณภู ภายใน 1-2 วันนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้หารือร่วมกับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ซึ่งเห็นพ้องในหลักการแนวทางการจัดเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว โดยจะใช้วิธีการเรียกเก็บอัตราค่าตอบแทนตามแนวทางใหม่ ซึ่งเป็นไปตามผลการศึกษาจากหลักมาตรฐานสากลในการจัดให้เช่าอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไป โดยจะมีการกำหนดผลประโยชน์ตอบแทนเปรียบเทียบกับมูลค่าทรัพย์สิน (ROA) ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนทั่วไปที่ผู้เช่าต้องชำระตามปกติ
ทั้งนี้ ตามผลการศึกษาได้กำหนดอัตรา ROA ตามลักษณะการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ประกอบด้วย ส่วนที่ใช้ในกิจการการบินคิดในอัตรา 1% ของมูลค่าทรัพย์สิน โดยพื้นที่ส่วนที่ใช้ในกิจการการบินนี้ คิดเป็น 43% ของพื้นที่ทั้งหมด
และพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ในกิจการการบิน คิดในอัตรา 3% ของมูลค่าทรัพย์สิน โดยพื้นที่ดังกล่าวคิดเป็น 32% ของพื้นที่ทั้งหมด
ส่วนพื้นที่พัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งเป็นการพัฒนาเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ จะคิดอัตรา ROA ประมาณ 5% ของมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้คิดเป็น 25% ของพื้นที่ทั้งหมด ประกอบกับใช้การกำหนดผลตอบแทนจากส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ซึ่งเป็นการกำหนดค่าตอบแทนเพิ่มเติมในกรณีที่ผู้เช่าดำเนินธุรกิจที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการใช้ทรัพย์สินนั้นได้เป็นจำนวนมาก
“ในหลักการและวิธีการคิดค่าเช่าจะเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันก่อนหน้านี้ ซึ่งทุกฝ่ายรับได้ โดยตอนนี้ได้มอบหมายให้ ทอท. กลับไปสรุปเกี่ยวกับตัวเลขพื้นที่ที่ไม่ใช้ในการบิน (Non-AERO) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ขณะที่มีบางส่วนที่แม้จะไม่ใช่พื้นที่เชิงพาณิชย์ แต่ก็ไม่ได้ใช้สำหรับการบิน เพราะใช้ด้านสาธารณะประโยชน์อื่น ๆ และยังมีพื้นที่ที่ใช้ในการบิน ก็ต้องเอาตัวเลขมาดูกัน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนทั้งหมดภายใน 1-2 วันนี้" นายพชร กล่าว
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ กรมธนารักษ์ ได้หารือกับ ทอท. และได้ข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการเก็บค่าเช่าที่ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเบื้องต้นแล้ว โดยกรมธนารักษ์จะให้ส่วนลดในการเช่าพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิแก่ ทอท. โดยเฉพาะในส่วนของพื้น Non-AERO เพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ทั้งหมด โดยพื้นที่บางส่วนยังถูกกันไว้ไว้ตามกฎของการบินด้านความปลอดภัย รวมถึงเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ เช่น สถานีตำรวจ ตลอดจนเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่กำลังรอการพัฒนาโครงการในอนาคต